การกล่าวสุนทรพจน์ของโอบาม่ามุ่งเน้นไปที่ประเด็นความก้าวหน้าของเศรษฐกิจ นับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจสหรัฐร่วงลง และจุดชนวนภาวะขาลงให้กับเศรษฐกิจทั่วโลก แต่โอบามาก็ได้ย้ำถึงข้อโต้แย้งในอดีตที่ว่า เศรษฐกิจยังไม่ได้อยู่ในจุดที่ควรจะเป็น
"ด้วยความอดทนและการปรับตัวของชาวอเมริกัน ทำให้เราขจัดเศษซากจากวิกฤตทางการเงินและเริ่มวางรากฐานใหม่ๆสำหรับการขยายตัวทางเศรษฐที่แข็งแกร่งและทนทานขึ้น" ปธน.โอบามา กล่าวกับผู้ฟังในเมืองเกลส์เบิร์ก รัฐอิลลินอยส์ วานนี้
"แม้ว่าธุรกิจของเรากำลังสร้างงานใหม่ๆและทำกำไรทุบสถิติ แต่ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา รายได้เกือบทั้งหมดเพิ่มสูงสุดที่ 1% อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่รัฐบาลเตรียมการเพื่อเข้าสู่การอภิปรายงบประมาณอีกรอบหนึ่งนั้น ส่วนแบ่งสำหรับชนชั้นกลางยังไม่สามารถปรับตัวสูงขึ้นกว่านี้ได้" โอบามากล่าว
แดน มาฮัฟฟี นักวิเคราะห์จากศูนย์การศึกษาประธานาธิบดีและสภาคองเกรสเปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า สุนทรพจน์ดังกล่าวผลักดันโดยปธน.โอบามาและทำเนียบขาว เพื่อส่งสาส์นออกไปล่วงหน้า ก่อนที่การอภิปรายเรื่องเพดานหนี้และงบประมาณจะเปิดฉากขึ้น
ทำเนียบขาวต้องการให้สภาคองเกรสเพิ่มเพดานหนี้ แต่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกันระบุว่า พวกเขาจะไม่ดำเนินอะไรใดๆในประเด็นดังกล่าว ถ้าไม่มีการปรับลดงบประมาณลงก่อน
สมาชิกพรรครีพับลิกันเผยว่า แถลงการณ์ของโอบามาเป็นการปัดฝุ่นมุมมองเก่าๆ ซึ่งเป็นแนวคิดที่คณะรัฐบาลผลักดันมาตั้งแต่เมื่อ 4 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามมาฮัฟฟีระบุว่า การที่โอบาม่ายึดมั่นในสาส์นนั้นจะเป็นที่ถูกใจชาวอเมริกัน เนื่องจากเป็นสาส์นด้านเศรษฐกิจประเด็นเดียวกันกับที่ช่วยโอบามาคว้าชัยในศึกการเลือกตั้งปี 2555 ได้เป็นอย่างดี
"อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง ไม่ว่าประธานาธิบดีหรือสมาชิกพรรครีพับลิกันต่างก็ไม่สามารถเดินหน้าวาระทางเศรษกิจให้บรรลุผลได้" มาฮัฟฟีกล่าวว่า หลายฝ่ายเชื่อว่าเศรษฐกิจดี แม้ว่าจะมีภาวะชะงักทางการเมืองก็ตาม
จากคำกล่าวของนายมาฮัฟฟี ทำเนียบขาวมองว่าการตอกย้ำสาส์นของนายโอบามาและการสนับสนุนยุทธศาสตร์ที่กำลังเดินหน้าอยู่นั้น ได้ผลดี
ในขณะที่เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย นับตั้งแต่ช่วงขาลงทางเศรษฐกิจ อัตราว่างงานเดือนมิ.ย.ทรงตัวที่ระดับ 7.6% ขณะที่ไม่มีสัญญาณว่าอัตราว่างงานจะบรรเทาลงสู่ระดับที่ยอมรับได้ในเร็วๆนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายระบุว่า ระดับการว่างงานของตลาดงานจะไม่กลับไปสู่ระดับของยุคก่อนเศรษฐกิจตกต่ำในอนาคตอันใกล้นี้
คาร์ลิน โบว์แมน สมาชิกระดับอาวุโสของสถาบันผู้ประกอบการอเมริกันเปิดเผยกับซินหัวว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเป็นประเด็นที่ติดอันดับความกังวลสูงสุดของชาวอเมริกัน ดังนั้นประธานาธิบดีจึงต้องพูดถึงเรื่องนี้
"ฉันคิดว่าความสำเร็จของสุนทรพจน์จะสามารถตัดสินกันได้จากประเด็นที่ว่า เขามีแนวคิดใหม่ๆหรือไม่ เขาสามารถผลักดันแนวคิดเหล่านั้นไปยังสภาได้หรือไม่ หรือแนวคิดเหล่านั้น จะสามารถเปลี่ยนข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้หรือไม่" โบว์แมนกล่าว
บทวิเคราะห์โดยแมธทิว รัสลิ่ง สำนักข่าวซินหัว