Analysis: ผุ้เชี่ยวชาญคาดธุรกิจชิปปิ้งเอเชียเผชิญสถานการณ์ลำบากช่วงครึ่งปีหลัง

ข่าวต่างประเทศ Tuesday July 30, 2013 10:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้คาดว่า ปริมาณการค้าที่ขยายตัวในระดับต่ำและการเพิ่มความสามารถในการผลิตจะมีมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจชิปปิ้งของเอเชีย จะยังคงเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในการดำเนินงาน แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญจะมองว่า ธุรกิจชิปปิ้งนั้น คงต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ย่ำแย่

ความต้องการสินค้าจากเอเชียนั้นอ่อนตัวลงในปีนี้ โดยการนำเข้าจากยุโรปลดลงไป 2% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสแรก ซึ่งการนำเข้าที่สูงขึ้น 6.5% ของทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐนั้น ก็มีส่วนช่วยชดเชยได้ในระดับหนึ่ง

ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว อัตราสปอตโดยเฉลี่ยของการค้าระหว่างเอเชียและยุโรปร่วงลง 55% ในไตรมาส 2 และม้ว่าอัตราการขนส่งสินค้าในแถบทรานส์แปซิฟิคจะเพิ่มขึ้น 15% ต่อปี แต่บริษัทขนส่งสินค้าก็ต้องรับมือกับการขยายตัวด้านปริมาณที่ต่ำลง และความสามารถในการดำเนินการที่เพิ่มขึ้น

ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา การแข่งขันที่สูงเกินไปด้านการขนส่งสินค้าทางเรือในบรรดาบริษัทขนส่งสินค้าทำให้แวดวงชิปปิ้งต้องยอมทุ่มราคา แม้ว่าจะต้องประสบกับภาวะขาดทุนก็ตาม

การเติบโตด้านดีมานด์ที่อ่อนแอน่าจะเป็นบททดสอบสำหรับธุรกิจชิปปิ้งว่าจะสามารถรับมือกับการควบคุมความสามารถในการดำเนินการอย่างเหมาะสมได้อย่างไร แต่คงไม่มีบริษัทรายใดที่ต้องการเป็นบริษัทแรกที่จะลดการดำเนินการ เพราะเกรงว่า จะทำให้ลูกค้าหันไปใช้บริการของบริษัทคู่แข่ง

ในขณะที่เป้าหมายเรื่องส่วนแบ่งตลาดยังคงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และผู้ให้บริการต่างก็ต้องการที่จะดึงลูกค้ารายสำคัญของตนเองไว้ในมือ ดังนั้น การแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้จึงยังคงเข้มข้น และทำให้อัตราสปอตอ่อนตัวลงอย่างรวดเร็วในปีนี้

สำหรับในช่วงระยะเวลาที่เหลือของปี ดูเหมือนว่า สถานการณ์คงจะไม่พลิกเปลี่ยนแปลงไป ทางซีไอเอ็มบี รีเสิร์ช คาดการณ์ว่า การนำเข้าจากทางยุโรปจะทรงตัว และการขยายตัวของการนำเข้าจากสหรัฐจะอยู่ที่ 3% สำหรับระยะเวลาตลอดทั้งปี

ในขณะที่การคาดการณ์เรื่องผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ชี้ว่า การขยายตัวน่าจะเพิ่มขึ้นจาก 3.1% ในปี 2556 เป็น 3.8% ในปี 2557 ซึ่งหมายความว่า การขยายตัวด้านดีมานด์ในการค้าที่ต้องใช้ตู้คอนเทนเนอร์จะแข็งแกร่งขึ้น 6-7% ในปี 2557-2558 ตามลำดับ โดยซีไอเอ็มบีชี้ว่า การขยายตัวของการค้าต่อปีที่ระดับ 6-7% ถือว่า ยังคงอ่อนแอ เมื่อเทียบกับตัวเลขการขยายตัวที่ระดับ 2 หลักในช่วงที่ก่อนจะเกิดวิกฤตการเงินโลกในปี 2551

แนวโน้มของอัตราการขนส่งสินค้า จะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของบริษัทขนส่งสินค้าแต่ละราย ซีไอเอ็มบี รีเสิร์ช รายงานว่า นักลงทุนจำเป็นต้องมีหลักการในการลดการดำเนินการตามมาตรฐานโลก แทนที่จะรอให้เกิดการยกเลิกการเดินเรือเพิ่มขึ้น

ซีไอเอ็มบีระบุว่า หากสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ภาคธุรกิจชิปปิ้งก็คงจะสามารถคาดหวังได้ว่า จะมีการปรับขึ้นอัตราสปอตอย่างยั่งยืนมากขึ้นในปลายปีนี้ และต้นปีหน้า

อย่างไรก็ดี แรงกดดันด้านอุปทานและอุปสงค์ดูเหมือนว่า จะมีความสมดุลมากขึ้นสำหรับธุรกิจการส่งสินค้าแห้ง ซึ่งอาจจะช่วยสนับสนุนอัตราค่าบริการในอนาคตได้

ปริมาณการส่งสินค้าล็อตใหม่เริ่มที่จะชะลอตัวลง ในขณะเดียวกันความต้องการในการขนส่งสินแร่เหล็กและถ่านหินดูเหมือนว่า จะเพิ่มขึ้น แม้ว่า แนวโน้มจะลดลงก็ตาม

ปัจจัยพื้นฐานของตลาดขนส่งสินค้าแห้งทางเรือยังคงถูกมองว่าเป็นปัจจัยลบในแวดวงชิปปิ้ง ซึ่งแตกต่างจากตลาดขนส่งสินค้าแบบที่ใช้ตู้คอนเทนเนอร์ในไตรมาสที่แล้ว

ปริมาณการขนส่งสินค้าแห้งของโลกเพิ่มขึ้นเพียง 3% โดยดีมานด์การขนส่งสินค้าสินแร่เหล็กและเหล็กกล้าจากจีนขยายตัวขึ้นเร็วขึ้น จากราคาสินแร่เหล็กนำเข้าที่ลดลง และสต็อกที่อยู่ในระดับต่ำของท่าเรือจีน

ทั้งนี้ เครดิต สวิส รีเสิร์ช คาดว่า ตลาดกำลังประเมินสถานการณ์ที่ดีขึ้นต่ำเกินไป หลังจากที่ความสามารถในการดำเนินการที่ดีขึ้นถูกมองว่า จะเป็นตัวกำหนดรูปแบบการดำเนินการของบริษัทขนส่งสินค้าแห้งทางเรือในปีนี้ก็ตาม

บทวิเคราะห์โดย ตัน ชี หมิง จากสำนักข่าวซินหัวรายงาน


แท็ก เอเชีย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ