นายถัง เจียนเหว่ย นักวิเคราะห์ธนาคารแบงก์ ออฟ คอมมิวนิเคชั่นเปิดเผยว่า ความต้องการในประเทศที่ลดน้อยลง ประกอบกับนโยบายการเงินที่รอบคอบ และความเป็นไปได้ที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกจะลดลงนั้น จะสกัดกั้นไม่ให้ราคาผู้บริโภคของจีนพุ่งขึ้นสูงมากจนเกินไป
อย่างไรก็ตาม นายถังระบุว่า ดัชนี CPI อาจจะขยายตัวเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เนื่องจากราคาเนื้อสุกรปรับตัวขึ้นเล็กน้อย รวมทั้งความเป็นไปได้ที่ราคาพลังงานและทรัพยากรจะพุ่งขึ้น และต้นทุนค่าเช่าและอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือนที่ปรับตัวสูงขึ้น
รัฐบาลจีนได้กำหนดเป้าหมายการขยายตัวของดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญไว้ที่ 3.5% สำหรับปี 2556 ขณะที่ข้อมูลจากทางการล่าสุดระบุว่า ดัชนี CPI ขยายตัว 2.4% เมื่อเทียบรายปีในช่วงครึ่งปีแรก ทำให้รัฐบาลจีนยังมีโอกาสปรับสมดุลเศรษฐกิจ
นายเหยา จิงหยวน นักวิจัยจากสำนักงานที่ปรึกษาของรัฐบาลจีนกล่าวว่า จีนเก็บเกี่ยวผลผลิตได้อย่างอุดมสมบูรณ์ในปีนี้ ซึ่งอาจจะทำให้ราคาสินค้ามีเสถียรภาพ
นายหวัง ยี่หมิง รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเศรษฐกิจมหภาคจีน สังกัดคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนระบุว่า ดัชนี CPI ไม่น่าจะขยายตัวเกิน 3% ในช่วงครึ่งปีหลัง
สำหรับอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ค.นั้น ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นราว 2.8%
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์และสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน แสดงให้เห็นว่าราคาสัตว์ปีก ผัก อาหารทะเล และถั่วเหลืองอยู่ในช่วงขาขึ้นตั้งแต่กลางเดือนก.ค.เนื่องจากอุณหภูมิสูงขึ้น
นายลี่ ฮ่วยจุน นักวิเคราะห์จากเฟิร์ส แคปิตอล กล่าวว่า คาดว่าราคาอาหารทะเลจะสัดส่วนราว 1.7% ของการเพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขณะที่ราคาสินค้าที่ไม่ใช่อาหารมีแนวโน้มคิดเป็น 1.1% ของการเพิ่มขึ้นของจีดีพี โดยกล่าวเสริมว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มจะถึง 2.8% ในเดือนก.ค.
ขณะที่รายงานฉบับหนึ่งของ CITIC Securities ระบุว่า ดัชนี CPI ของจีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. สำนักข่าวซินหัวรายงาน