Analysis: หนทางการผ่านร่างกม.ปฏิรูปภาษีสหรัฐยังอีกยาวไกล แม้จะมีเสียงเรียกร้องมากมาย

ข่าวต่างประเทศ Wednesday August 14, 2013 16:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ขณะที่การถกเถียงเกี่ยวกับการปฏิรูปภาษีในสหรัฐอเมริกากำลังจะเปิดฉากขึ้น บรรดานักวิเคราะห์การเมืองต่างกล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้างภาษีครั้งสำคัญ ก็ยังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากอยู่ดี

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ตนเองเต็มใจที่จะร่วมงานกับพรรครีพับลิกันเพื่อปรับลดอัตราภาษีนิติบุคคล ซึ่งเป็นการยุติการขยายโครงการลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐที่ซบเซาให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า พรรครีพับลิกันไม่มีแนวโน้มที่จะผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว เว้นแต่กฎหมายจะปรับลดภาษีสำหรับธุรกิจเกิดใหม่ และธุรกิจขนาดเล็ก รวมถึงภาษีบุคคลธรรมดาอย่างเต็มรูปแบบ ความไม่ลงรอยในครั้งนี้เป็นเพียงเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นท่ามกลางการแข่งขันแบบเล่นพรรคเล่นพวกที่มีมาอย่างต่อเนื่องของสภาคองเกรสในช่วงไม่กีปีที่ผ่านมา

นายฟอร์ด โอ คอนเนลล์ นักยุทธศาสตร์จากพรรครีพับลิกันให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า “ผมว่า เป็นเรื่องยากมากสำหรับรีพับลิกันที่จะเห็นชอบกับนโยบายที่ท่านประธานาธิบดีเสนอขึ้นมา" พร้อมเสริมว่า พรรครีพับลิกันอาจจะรอถกประเด็นนี้หลังจากการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดว่า พรรคจะได้ที่นั่งมากขึ้นในสภา

ในช่วงเวลา 4 ปีของการฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐ อัตราว่างงานก็ยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ระบุมาตลอดว่า จะต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าที่อัตราว่างงานจะกลับมาอยู่ในระดับที่ดีอีกครั้ง นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาสที่แล้วก็ขยายตัวเพียงเล็กน้อยที่ 1.7%

นายพอล ไรอัน อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันกล่าวโจมตีแผนปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโอบามาในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฟ็อกซ์ว่า เปรียบเสมือนลัทธิทุนนิยมแบบเล่นพรรคเล่นพวก พร้อมกล่าวว่า อัตราภาษีบุคคลธรรมดาที่เหมาะสมที่สุดอยู่ที่ระดับ 44.6%

เขามีความคิดเห็นในทิศทางเดียวกันกับอีกหลายคนที่เชื่อว่า การปรับลดภาษีนิติบุคคลจะเป็นการผลักภาระทางภาษีไปให้ชนชั้นกลาง และบรรดาธุรกิจขนาดเล็ก

นายแอนดี้ บุช บรรณาธิการ และผู้ตีพิมพ์ Busch Update ซึ่งเป็นจดหมายข่าวด้านการเงิน และการเมือง รวมถึงอดีตนักยุทธศาสตร์ด้านสกุลเงินโลก และนโยบายสาธารณะของบริษัท BMO Capital Markets โต้แย้งว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปัจจุบันเป็นไปอย่างย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) และสะท้อนความคิดเห็นของนักวิเคราะห์อื่นๆที่มองว่า การฟื้นตัวเศรษฐกิจส่วนใหญ่ในช่วงก่อนหน้านี้นั้น สามารถปรับตัวดีขึ้นภายในระยะเวลา 2 ปี

“สิ่งที่ดีที่สุดที่ (คณะบริหารของประธานาธิบดีโอบามา) สามารถทำได้ก็คือ การยืนยันที่จะผลักดันการปฏิรูปภาษี" เขากล่าว บุชเสริมว่า “แผนปฏิรูปภาษีจะเกิดขึ้นได้จริงถ้ามีผู้นำ ซึ่งจะต้องมีอำนาจเหนือผู้นำในรัฐสภาทั้งหลาย โดยการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นเรื่องง่ายที่สุด ตราบใดที่มันส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศ แต่มันจะยากขึ้น เนื่องจากหมากเกมทางการเมืองจะทำให้คุณต้องออกมาเรียกร้องจนกว่าที่จะได้รับความเห็นชอบ"

“นี่เป็นสิ่งที่ประเทศอื่นๆในโลกได้ดำเนินการอยู่แล้ว และเราก็ล้าหลังพวกเขาเป็นอย่างมาก"

นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า การกระตุ้นให้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวอีกครั้งจะส่งผลกระทบด้านบวกต่อประเทศต่างๆทั่วโลก ซึ่งรวมถึงจีน โดยเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นของสหรัฐบ่งชี้ว่า ชาวอเมริกันจะมีเงินสดในมือมากขึ้นเพื่อซื้อสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ

เมื่อแบ่งรายได้จำนวนมากของต่างประเทศในสหรัฐอเมริกา พบว่า ชนชั้นกลางอเมริกันส่วนใหญ่บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ภาษีที่สูงขึ้นทำให้พวกเขาต้องเลื่อนการซื้อสินทรัพย์ครั้งใหญ่ เช่น บ้าน และรถยนต์ ออกไปก่อน

ไดแอน แซวงค์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท เมซิโรว์ ไฟแนนเชียล กล่าวว่า การยกเลิกอัตราภาษี และกำจัดช่องโหว่ต่างๆจะช่วยให้การตัดสินใจทางธุรกิจชัดเจนยิ่งขึ้น ตลอดจนส่งเสริมศักยภาพของเศรษฐกิจ และช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่องค์กรต่างๆ

“นับเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งจะช่วยให้การตัดสินใจต่างๆทางธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังช่วยลดการหาผลประโยชน์โดยอาศัยช่องโหว่ทางกฎหมายภาษี" เธอทิ้งท้าย พร้อมกล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวมีประโยชน์อย่างยิ่งโดยเฉพาะต่อกลุ่มผู้ผลิต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ