มูบารัคจะออกจากคุกหลังจากที่ศาลปิดคดีคอร์รัปชั่นซึ่งเขาถูกจับพร้อมกับบุตรชายอีก 2 คน ในข้อหาใช้อำนาจโดยมิชอบและรับของกำนัลจากหนังสือพิมพ์อัล-อาห์ราม ซึ่งเป็นหนังสือพิม์ของรัฐ ผ่านทางรัฐมนตรีสารสนเทศในสมัยที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
อดีตประธานาธิบดีมูบารัควัย 86 ปี บริหารประเทศอียิปต์มาเป็นเวลานานถึง 30 ปี จนกระทั่งถูกยึดอำนาจในช่วงที่เกิดการลุกฮือทั่วประเทศเมื่อต้นปี 2554 หลังได้รับอิสระ เขายังคงถูกสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เนื่องจากเขาจะถูกไต่สวนคดีใหม่ในหลายข้อหาซึ่งเกี่ยวพันกับการสั่งฆ่ากลุ่มผู้ประท้วงในเหตุวุ่นวายทางการเมืองเมื่อปี 2554 อันเป็นเหตุที่ทำให้เขาต้องพ้นจากอำนาจไปในที่สุด โดยการไต่สวนครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันเสาร์นี้
กามาล ซาห์ราน คณบดีคณะรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยพอร์ทเซดมองว่า การปล่อยตัวมูบารัคจะไม่ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองในอียิปต์เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากความชราภาพของตัวมูบารัคเอง และกระบวนการศาลของประเทศ
ซาห์รานให้สัมภาษณ์กับซินหัวว่า มูบารัคจะไม่ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองยุ่งยากขึ้น เพราะขณะนี้กลุ่มภราดรภาพมุสลิมและฝ่ายตรงข้ามกำลังคุมเชิงกันอยู่ หลังจากที่ได้โค่นอำนาจนายมอร์ซีและคุมขังผู้นำของกลุ่มภราดรภาพฯ
“ประชาชนไม่ได้สนใจข่าวของมูบารัคเลย การปล่อยตัวเขาเป็นเพียงสถานการณ์อันชวนแดกดันของประเทศเท่านั้น"
อย่างไรก็ดี ซาห์รานกล่าวว่า การปล่อยตัวมูบารัคจะ "ส่งผลเสียต่อสังคม" เนื่องจากเขาเคยใช้อำนาจในทางที่ผิดในการทุจริตคอร์รัปชั่นครั้งล่าสุด
เขาได้เรียกร้องให้มีการสร้างความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่านและเรียกร้องให้มีศาลพิพากษาคดีปฏิวัติเพื่อตัดสินคดีทุจริตของมูบารัคและพวกพ้อง เนื่องจากข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ของข้อกล่าวหาช่วยให้มูบารัคและพวกพ้นผิดเกือบทั้งหมด
แม้ว่ามูบารัคจะไม่มีอนาคตทางการเมือง แต่ประชาชนก็รู้สึกสับสนกับการปล่อยตัวชายผู้ถูกกล่าวหาว่าสั่งฆ่าผู้ประท้วง และต้องคดีอื่นอีกหลายคดี
ขณะที่เขาจะได้ออกจากคุกโทร่าในอีกไม่นานนี้ ผู้นำกลุ่มภราดรภาพมุสลิมหลายคนยังถูกคุมขังในหมู่เรือนจำเดียวกัน
เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่อียิปต์ได้จับกุมตัวซาฟวัต เฮกาซี แกนนำกลุ่มภราดรภาพฯ และโมราด โมฮัมเหม็ด อาลี โฆษกของกลุ่ม ขณะกำลังหลบหนีออกนอกประเทศไปยังลิเบียและโรมตามลำดับ และเมื่อสองวันก่อนหน้านี้ โมฮัมเหม็ด บาดี ผู้นำสูงสุดของกลุ่มภราดรฯ ก็ถูกจับกุมตัว และถูกคุมขังเป็นเวลา 15 วันในข้อหาฆ่าผู้ประท้วงเสียชีวิต
นาบิล ซากี นักวิเคราะห์ด้านการเมืองยืนยันว่า "ยุคสมัยของมูบารัคคือหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์อียิปต์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อไปอีกยาวนาน"
เขามองว่ามูบารัคจะพ้นโทษจากทุกคดีแต่ถูกทำทัณฑ์บน เนื่องจากมีอายุมากแล้ว ซึ่งผู้คนจะยอมรับเรื่องนี้ได้ในเวลาไม่นาน
ซากีให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า ความแค้นเคืองที่มีต่อมูบารัคลดลงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากประชาชนพากันเปรียบเทียบการบริหารที่ย่ำแย่ของเขากับการบริหารประเทศที่เลวร้ายยิ่งกว่าของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม พร้อมกล่าวว่า การบริหารของกลุ่มภราดรฯในเวลาเพียง 1 ปีนั้น ย่ำแย่เท่ากับที่มูบารัคนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีเป็นเวลา 30 ปี
เขาเสริมว่า สมาชิกพรรคของมูบารัคอยู่ที่บ้านของตน และไม่ได้เผาประเทศตอนที่พรรคของพวกเขาหมดอำนาจลง ไม่ได้ตอบโต้เหมือนพรรคของนายมอร์ซี เมื่อกองทหารยึดอำนาจผู้นำของพวกเขา
ชาวอียิปต์จำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะเคารพกฎหมายและคำพิพากษาของตุลาการ หากพวกเขาต้องการที่จะอาศัยอยู่ในประเทศประชาธิปไตยที่ปกครองด้วยกฎหมาย ซากีกล่าว
ในทางตรงกันข้าม ซาเมียร์ กาตาส หัวหน้าศูนย์ศึกษาการเมืองมาคเดสซึ่งตั้งอยู่ในกรุงไคโร กล่าวว่า การปล่อยตัวมูบารัคจะยิ่งทำให้เหตุความไม่สงบในอียิปต์วุ่นวายมากยิ่งขึ้น
กาตาสชี้แจงว่า แม้ว่ามูบารัคจะได้รับการปล่อยตัวอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่เวลานี้เป็นช่วงเวลาวิกฤตเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลซึ่งส่วนใหญ่เป็นพรรคพวกของมูบารัคกำลังกักขังสมาชิกกลุ่มภราดรภาพฯ
กลุ่มภราดรภาพฯ จะเดินขบวนประท้วงต่อต้านนายอับเดล ฟาตาห์ ซีซี รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ผู้ขับไล่ประธานาธิบดีอันชอบธรรมของพวกเขาและปล่อยตัวมูบารัคให้เป็นอิสระ เพื่อปูทางให้พรรคพวกของมูบารัคสามารถขึ้นมามีอำนาจได้อีกครั้ง และปิดโอกาสไม่ให้กลุ่มภราดรภาพฯ ยึดอำนาจกลับไปได้อีก
ขณะนี้สถานการณ์ในอียิปต์ซับซ้อนวุ่นวายเป็นอย่างมาก และแม้มูบารัคจะไม่ได้รับการปล่อยตัวโดยสมบูรณ์ แต่ก็จะทำให้เหตุการณ์วุ่นวายมากขึ้น กาตาสกล่าว