เหตุการณ์ดังกล่าวตอกย้ำถึงความสำคัญอย่างมากในการสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับคณะผู้เชี่ยวชาญจากยูเอ็นในการปฏิบัติหน้าที่ในซีเรีย
นายมาร์ติน เนเซอร์กี โฆษกยูเอ็น กล่าวว่า "รถยนต์คันแรกของทีมตรวจสอวบอาวุธเคมีถูกระดมยิงโดยจงใจจากกลุ่มมือปืนสไนเปอร์ที่ไม่ทราบฝ่ายในบริเวณพื้นที่กันชน"
เหตุลอบยิงดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นในวันแรกของการดำเนินการตรวจสอบของยูเอ็นนั้น ทำให้ความพยายามของคณะตรวจสอบหาข้อเท็จจริงของยูเอ็นต้องหยุดชะงักไปในการตรวจสอบข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการใช้อาวุธเคมีใกล้กับกรุงดามัสกัส
นายเนเซอร์กีระบุว่า หลังจากนั้น คณะผู้ตรวจสอบของยูเอ็นได้เดินทางไปยังจุดหมายเดิมอีกครั้งเพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป หลังจากเปลี่ยนพาหนะคันใหม่ ซึ่งนายเนเซอร์กีกล่าวว่ารถยนต์คันที่ถูกโจมตีไม่สามารถใช้การได้อีกต่อไป
แม้ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุลอบยิงดังกล่าว และคณะผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากยูเอ็น ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยนายบัน คี-มูน เลขาธิการยูเอ็นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาตามคำร้องขอจากรัฐบาลซีเรีย ก็ยังคงจะดำเนินการตรวจสอบต่อไป ท่ามกลางสถานการณ์อันตรายอย่างมาก แต่ก็เห็นได้ชัดว่าคณะผู้เชี่ยวชาญของยูเอ็นเผชิญกับภัยคุกคามเมื่อเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในซีเรีย
ทั้งนี้ การสืบสวนของยูเอ็นจะตรวจสอบเพียงแค่ประเด็นที่สงสัยว่ามีการใช้อาวุธเคมีในซีเรียจริงหรือไม่ ไม่ได้ตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ใช้อาวุธดังกล่าว โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทางการซีเรียได้อนุญาตให้คณะผู้ตรวจสอบของการยูเอ็นเดินทางเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุ
รายงานระบุว่า มีการโจมตีด้วยอาวุธเคมีเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ในบริเวณชานเมืองฝั่งตะวันออกของกรุงดามัสกัส ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนอย่างน้อยหลายร้อยราย
รัฐบาลซีเรียและกลุ่มต่อต้านรัฐบาลต่างโยนความผิดให้กับอีกฝ่ายว่าเป็นผู้ใช้อาวุธเคมี และทั้งสองฝ่ายต่างก็ออกมาปฏิเสธอย่างแข็งขันว่าไม่ได้กระทำการดังกล่าวท่ามกลางความขัดแย้งในซีเรีย ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากวิกฤตทางการเมืองในซีเรียได้เริ่มขึ้นในเดือนมีนาคม 2554
หากมีการยืนยันการใช้อาวุธเคมีจริง การโจมตีดังกล่าวจะถือเป็นการโจมตีด้วยอาวุธเคมีครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปีที่ผ่านมา
ประชาคมระหว่างประเทศไม่สามารถยอมรับการใช้อาวุธเคมีไม่ว่าจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขใดๆก็ตาม และยูเอ็นก็ได้ระบุอย่างชัดเจนแล้วว่า การใช้อาวุธดังกล่าวควรมีผู้ที่รับผิดชอบ
ในปัจจุบันนี้ ทุกฝ่ายต่างจับตาดูคณะผู้ตรวจสอบของยูเอ็นในซีเรีย และประชาคมระหว่างประเทศก็หวังว่าผู้เชี่ยวชาญจากยูเอ็นจะสามารถดำเนินการตรวจสอบได้ลุล่วงตามวัตถุประสงค์ แต่การปฏิบัติภารกิจที่สำคัญเช่นนี้ จำเป็นต้องมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยอย่างไม่ต้องสงสัย
นายบัน คี-มูน เลขาธิการยูเอ็นกล่าวหลังจากการพูดคุยกับนางแองเจล่า เคน หัวหน้าหน่วยปลดอาวุธของยูเอ็น ซึ่งอยู่ในกรุงดามัสกัสเพื่อดูแลการตรวจสอบดังกล่าวว่า "ผมได้แนะนำแองเจลา เคน ให้แสดงความไม่พอใจอย่างมากต่อรัฐบาลซีเรียและกองกำลังของกลุ่มต่อต้านรัฐบาล เพื่อที่เหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก และจะมีการปรับประกันความปลอดภัยของทีมตรวจสอบตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป"
ทางการซีเรียได้ต้อนรับการเดินทางมาของคณะผู้ตรวจสอบจากยูเอ็นอยู่แล้ว และได้อนุมัติให้คณะตรวจสอบดังกล่าวสามารถเดินทางเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุได้
ตอนนี้ คณะตรวจสอบยูเอ็นได้เสร็จสิ้นการปฏิบัติงานวันแรกแล้ว แต่เพื่อให้มั่นใจว่าการตรวจสอบประสบผลสำเร็จ ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกับคณะผู้เชี่ยวชาญจากยูเอ็นเพื่อรับประกันความปลอดภัยในการเดินหน้าตรวจสอบการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย