ยิ่งไปกว่านั้น ปัญหาดังกล่าวเริ่มปะทุขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขณะที่คณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภาสหรัฐได้เลื่อนการสรุปผลการอนุมัติออกไปอีกกว่า 3 ชั่วโมง และลงมติ 10 ต่อ 7 คะแนนเสียงเท่านั้น หลังจากที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงข้อความที่ใช้ในมติตามที่สมาชิกวุฒิสภา จอห์น แม็คเคน ได้เรียกร้องมา คะแนนโหวตดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุน และการคัดค้านจากทั้ง 2 พรรคการเมือง ซึ่งบ่งชี้ว่า สภาคองเกรสมีความคิดเห็นที่แบ่งเป็น 2 ฝ่ายต่อกรณีปัญหาในซีเรีย
การวิเคราะห์เรื่องคะแนนของสื่อนั้นช่วยตอกย้ำถึงความคิดเห็นที่แบ่งออกเป็น 2 ขั้วในคองเกรส สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นระบุว่า วุฒิสภา ซึ่งคาดว่าจะลงคะแนนเสียงเรื่องนี้ในสัปดาห์หน้า มีเสียงสนับสนุนอยู่ในมือแล้ว 24 เสียง ซึ่งประกอบด้วยผู้นำพรรคเดโมแครต และประธานคณะกรรมาธิการส่วนมาก และมีผู้ออกเสียงคัดค้าน 17 เสียง และยังไม่ออกเสียงอีก 59 คน หากฝ่ายที่ไม่สนับสนุนการโจมตีผ่านมติในสภา ผู้นำเสียงข้างมากอย่างนายแฮร์รี่ รี้ด อาจจำเป็นต้องรวบรวมเสียงสนับสนุนให้ได้ 60 เสียงกวาดคะแนนเสียงให้ได้สูงกว่าคะแนนเสียงของฝ่ายที่ไม่สนับสนุนการโจมตี
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ทางด้านสภาผู้แทนฯ ซึ่งจะมีการแข่งขันชิงตำแหน่งกันในการลือกตั้งปีหน้านั้น มีผู้ที่คาดว่าจะออกเสียงสนับสนุนการโจมตีเพียง 26 เสียง ซึ่งรวมถึงผู้นำของทั้ง 2 พรรค ผู้ออกเสียงคัดค้านมี 102 คน ยังไม่ตัดสินใจ 284 คน และอีก 21 คนยังไม่ทราบแนวคิด โดยผลสำรวจที่ได้จากเดอะ วอชิงตัน โพสต์ ก็ออกมาในทำนองเดียวกัน
มิเชล บารอน จากสถาบันอเมริกัน เอ็นเตอร์ไพรส์ อินสติทิว กล่าวว่า "สมาชิกสภาคองเกรสหลายคน ซึ่งไม่เพียงแค่สมาชิกพรรครีพับลิกันเท่านั้น ต่างไม่พอใจที่ถูกเรียกร้องให้เห็นชอบกับการโจมตีซีเรีย ซึ่งผลสำรวจความคิดเห็นชี้ว่า ประชาชนไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ออกเสียงอิสระที่มีความสำคัญต่อการตัดสินผลการเลือกตั้งในหลายๆรัฐ และเขตการปกครองของสภาได้"
ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุด บ่งชี้ว่า ประชาชนชาวอเมริกันส่วนใหญ่คัดค้านการใช้กำลังทหารเข้าโจมตีซีเรีย และสนับสนุนให้โจมตีประมาณ 20% - 30%
สมาชิกสภาคองเกรสตระหนักถึงอันตรายจากการสนับสนุนการเสี่ยงภัยทางการทหารเป็นอย่างมากในช่วง 1 ปีก่อนการเลือกตั้ง รายงานบ่งชี้ว่า สภาผู้แทนฯจะยอมรับผลสรุปไม่ว่ากรณีใดๆหลังจากวุฒิสภาได้ทำการลงคะแนนเสียงแล้ว หากวุฒิสภาลงมติไม่เห็นชอบ สภาผู้แทนฯก็จะไม่ดำเนินการใดๆทั้งสิ้น แม้หากวุฒิสภาลงมติเห็นชอบ สภาผู้แทนฯก็จะเริ่มพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบในที่ประชุมสภาช่วงก่อนสัปดาห์ระหว่างวันที่ 16 กันยายน
ในขณะที่ประเทศเบื่อหน่ายกับการทำสงครามนั้น สภาคองเกรสจึงถูกตำหนิมาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับความล้มเหลวในการโน้มน้าวให้ประชาชนเห็นชอบและสนับสนุน สำนักข่าวซินหัวรายงาน