จากสัดส่วนการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่ 7.8% การลงทุนคิดเป็นสัดส่วนสนับสนุนสูงสุด 4.3% ซึ่งแซงหน้าการบริโภคไป 0.8% ขณะที่รายได้ของภาคที่อยู่อาศัยในเมืองขยายตัวสูงขึ้นมากแต่ก็ยังขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค
ในขณะที่จีนพยายามที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้อยู่ในรูปแบบการขยายตัวที่ชะลอตัวลงและมีความยั่งยืนมากขึ้นบนพื้นฐานของการบริโภคภายในประเทศแทนที่จะพึ่งพาการลงทุนและการส่งออก ข้อมูลในไตรมาส 3 อาจจะชี้ให้เห็นถึงการขยายตัวในระยะสั้น
ข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นบวกในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงภายหลังวิกฤตการเงินโลก ได้รับการสนับสนุนจากการใช้จ่ายของรัฐบาล การปล่อยกู้ของธนาคาร และการส่งออก ซึ่งทำให้รูปแบบของการขยายตัวอย่างยั่งยืนเป็นเพียงภาพลวงตา และยังทำให้เป้าหมายในการพัฒนาจีนให้เป็นสังคมที่อยู่ดีกินดีภายในปี 2564 ของรัฐบาลจีนมีความน่าเกรงขามยิ่งขึ้น
เศรษฐกิจที่สะดุด ประกอบการช่องว่างคนรวยที่เพิ่มขึ้น การทุจริตในวงกว้าง และความขัดแย้งทางสังคมที่สูงขึ้น ทำให้จีนซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก และมีเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกนั้น ยืนอยู่บนทางแพร่ง
ผู้นำของจีนเองก็รับทราบเรื่องนี้ดีอยู่แล้ว
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเคยกล่าวไว้ว่า จีนจะต้องเข้มแข็งพอที่จะรับมือกับความเจ็บปวด เผชิญหน้ากับอันตรายใดๆ และรับมือกับปัญหาที่ยากจะเยียวยาในระหว่างที่มีการปฏิรูป
ในการประชุมของคณะกรรมการการพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 18 ที่จะเปิดฉากขึ้นสุดสัปดาห์นี้ คาดว่า จะเป็นจุดบอกถึงการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากนโยบายเศรษฐกิจที้จริงจังจะถูกเปิดเผยออกมา
หลังจากที่การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและอันตรายในช่วงกว่า 30 ปีที่ผ่านมา จีนมีความมั่งคั่งมากขึ้น และยังทำให้กลุ่มที่รวบอำนาจในบริษัทของรัฐและหน่วยงานของรัฐบาลท้องถิ่นได้รับผลประโยชน์ตามไปด้วย
เป็นที่รู้กันว่า กลุ่มบุคคลเหล่านี้อาจจะสร้างความเสียหายให้กับการขยายตัวที่สดใสและบ่อนทำลายอำนาจอันชอบธรรมในการบริหารประเทศของพรรค ผู้นำจีนจังได้ใช้มาตรการที่ชัดเจน เพื่อแก้ปัญหาการทุจริต การใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
นอกจากนี้ ยังมีเหตุผลประกอบที่ทำให้เชื่อได้ว่า จะมีการประกาศแนวทางการปฏิรูปในวงกว้างและการปฏิรูประบบมากขึ้นในการประชุมที่กำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ทั่จะถึงนี้
การลดอำนาจของรัฐบาลและเปิดโอกาสให้ตลาดมีสิทธิมีเสียงมากขึ้นในเรื่องการจัดสรรทรัพยากรต่างๆจะเป็นประเด็นหลักของการปฏิรูป ส่วนประเด็นการปฏิรูปที่สำคัญอื่นๆคาดว่า จะประกอบด้วยระบบครัวเรือน การจัดสรรรายได้การคลัง การกำหนดราคาผลิตภัฑ์ด้านพลังงาน การเป็นเจ้าของที่ดิน และการเปิดเสรีทางการเงิน
มาตรการที่ได้มีการนำมาใช้แบบค่อยเป็นค่อยไปในหลายพื้นที่ของประเทศ ไม่เคยอยู่ในรูปแบบที่เป็นระบบ ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในระดับปัจจัยพื้นฐาน
นอกจากนี้ ยังมีหลากหลายเหตุผลที่ทำให้เชื่อว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนสามารถดำเนินการปฏิรูปได้เป็นอย่างดี ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา จีนมีผู้นำที่มีความแข็งแกร่งและมีความแน่วแน่ในการผลักดันให้เกิดการปฏิรูปเชิงรุก และผู้นำจีนในยุคปัจจุบันก็มีความมุ่งมั่นไม่น้อยไปกว่ากัน
ทั้งนี้ ประชาชนต่างคาดหวังเรื่องการเปลี่ยนแปลงไว้มาก การปฏิรูปได้กลายมาเป็นมติของสังคมมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยไดี้รับการสนับสนุนมาก่อนเหมือนเช่นในปัจจุบัน
ในความเป็นจริงนั้น จีนไม่ได้ต้องการที่จะทำให้การปฏิรูปต้องล่าช้าออกไป หากพรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องการที่จะคงอำนาจไว้ และเดินหน้าเพื่อให้ได้ใจของประชาชนแล้วละก็ ขณะนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องดำเนินการในสิ่งที่สำคัญ
จิว เจีย จากสำนักข่าวซินหัวรายงาน