ปธน. สีจิ้นผิงกล่าวในระหว่างการเดินทางเยือนมณฑลซานตงในช่วงวันอาทิตย์ถึงวันพฤหัสบดีว่า “สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ทุกคนควรเชื่อมั่นว่า แผนปฏิรูปของจีนจะเป็นจริงได้ ไม่ว่าเราจะต้องเผชิญกับปัญหา และความยุ่งยากใดๆก็ตาม เราจะต้องไม่ยกเลิกแผนการปฏิรูปประเทศ"
เขากล่าวว่า แผนปฏิรูปกำลังอยู่ในช่วงดำเนินการ และเรื่องสำคัญที่สุดในขณะนี้คือ การบังคับใช้ และลงมือดำเนินการให้เป็นรูปธรรมทีละขั้นตอน
อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่า การปฏิรูปประเทศอย่างจริงจังจะเป็นภารกิจที่ยาก และซับซ้อนสำหรับคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC)
“มันจะเป็นบททดสอบความสามารถครั้งใหม่ของพรรคคอมมิวนิสต์ในการปกครอง และบริหารประเทศ" ปธน. สี เสริม
แผนปฏิรูปดังกล่าวประกอบด้วยมาตรการกว่า 300 ข้อ ซึ่งคณะกรรมการกลางพรรค CPC สมัยที่ 18 ได้นำเสนอในการประชุมใหญ่ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา
ปธน. สี ระบุว่า ควรมีการบังคับใช้มาตรการต่างๆตามแผนการปฏิรูปอย่างเคร่งครัด พร้อมเตือนให้ระวังการดำเนินงานโดยไม่เข้าใจจุดประสงค์ของหน่วยงานกลางทั้งหลาย
ทั้งนี้ มาตรการบางข้อสงวนไว้ให้คณะกรรมการกลางพรรค CPC เป็นผู้ริเริ่มดำเนินการ จึงไม่ควรเร่งดำเนินการ ขณะที่มาตรการอื่นๆที่สามารถลงมือปฏิบัติได้อย่างเร็วที่สุด ก็ไม่ควรชักช้า
นอกจากนี้ มาตรการบางข้อที่จะเป็นต้องทดลองใช้ รัฐบาลก็จะไม่รีบร้อน และจะศึกษาข้อมูลอย่างระมัดระวังก่อน
ขณะที่ มาตรการบางข้อก็ไม่ควรริเริ่มจนกว่าจะมีการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาเสียก่อน เขาเสริม
ปธน. สี เน้นย้ำว่า เมื่อมีการบังคับใช้แผนปฏิรูป เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นก็ไม่ควรยึดติดกับนโยบายของหน่วยงานกลางเท่านั้น แต่ควรปรับใช้อย่างยืดหยุ่นตามความเหมาะสมของแต่ละท้องที่
เขายังเรียกร้องให้พรรค CPC และประชาชนจีนร่วมมือร่วมใจกันผลักดันแผนปฏิรูปประเทศ โดยทำความเข้าใจ สนับสนุน และมีส่วนร่วมในการปฏิรูปครั้งนี้
นอกจากนี้ ปธน. สี ยังกระตุ้นให้พรรค CPC มุ่งมั่นในการดำเนินแผนปฏิรูปทุกขั้นตอน โดยเจ้าหน้าที่ของพรรคควรพยายามพัฒนาศักยภาพในการขับเคลื่อน และดำเนินการปฏิรูป รวมถึงเตรียมรับมือกับสถานการณ์ยุ่งยากต่างๆ
ในระหว่างการเดินทางเยือนมณฑลซานตง 5 วันนั้น ปธน. สี ได้เยี่ยมชมสุสานในเมืองหลินหยี ซึ่งเป็นฐานกำลังทหารที่สำคัญของจีนในช่วงสงครามที่ญี่ปุ่นเข้ารุกรานระหว่างปี 2480-2488 เพื่อแสดงความเคารพต่อทหารผู้เสียสละเพื่อประเทศ
หลังจากนั้น ในช่วงบ่ายวันจันทร์ ปธน. สี ได้เดินทางไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่พรรค CPC ได้ก่อตั้งหน่วยงานต่างๆของพรรคขึ้นในสมัยสงครามช่วงแรกๆ โดยเขาได้แวะเยี่ยมบ้านชายชราวัย 83 ปี เพื่อถามไถ่ชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบันของ “เพื่อนเก่า" และสมาชิกครอบครัวของเขา
เขายังขอร้องให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นช่วยสนับสนุนแผนการปฏิรูปซึ่งเปรียบเหมือนกับการปฏิวัติประเทศในสมัยก่อนให้มากยิ่งขึ้น “แม้ว่าชีวิตของเรากำลังจะดีขึ้น แต่ประวัติศาสตร์ก็ไม่อาจถูกลืมเลือนได้ รวมถึงบรรดาผู้คนที่อุทิศตัวให้กับการก่อตั้งประเทศจีนขึ้นใหม่ก็จะต้องเป็นที่จดจำ"
ต่อมาในวันอังคาร ปธน. สี ได้เดินทางไปยังเมืองชูฟู่ บ้านเกิดของขงจื๊อ (Confucius) นักปราชญ์จีนโบราณ ซึ่งมุ่งเน้นคำสอนเกี่ยวกับเรื่องสันติภาพ และความสามัคคีในสังคม
ปธน. สี ยังเรียกร้องให้มีการพัฒนาด้านคุณธรรมในสังคม โดยปรับใช้สิ่งที่เป็นประโยชน์จากบรรทัดฐานทางศีลธรรมแบบเก่า ขณะเดียวกันก็ละทิ้งสิ่งที่ก่อให้เกิดโทษ
“ประเทศชาติของเราจะเต็มไปด้วยความหวังอยู่เสมอ ตราบใดที่ชาวจีนช่วยกันสืบทอดอาณาจักรอย่างสวยงาม และเปี่ยมด้วยศีลธรรมจากรุ่นสู่รุ่น" ปธน. สี กล่าว
นอกจากนี้ เขายังได้เข้าเยี่ยมบริษัทสิ่งทอ และสถาบันเกษตรศาสตร์ซานตง (Shandong Academy of Agricultural Sciences) โดยได้เน้นย้ำบทบาทที่สำคัญของเทคโนโลยีในการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการตลอดจนช่วยส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตร
ปธน. สี ได้กระตุ้นหน่วยงานท้องถิ่นให้ปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพของเกษตรกร และแรงงานต่างถิ่น ด้วยการเพิ่มรายได้ และจัดหาบริการสาธารณะให้พวกเขามากยิ่งขึ้น
เขายังได้ฟังรายงานการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆในมณฑลซานตง และกล่าวชื่นชมผลการดำเนินงานเหล่านั้น ตลอดจนให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ของมณฑล ซึ่งเป็นมณฑลที่ร่ำรวยที่สุดของจีน ในการเดินหน้าปฏิรูปแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อเป็นมณฑลนำร่องของจีนในการสร้างสังคมที่มั่งคั่ง สำนักข่าวซินหัวรายงาน