ข้อมูลจากเว็บไซต์ธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า ยอดการระดมทุนเชิงสังคมโดยรวมของจีน ซึ่งเป็นเครื่องมือวัดสภาพคล่องที่ได้มีการนำมาใช้เป็นครั้งแรกเมื่อปลายปี 2553 นั้น ทะยานแตะระดับ 17.29 ล้านล้านหยวนตลอดทั้งปี 2556 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เริ่มมีการจัดเก็บข้อมูล
ยอดการระดมทุนเชิงสังคมโดยรวม ซึ่งคิดจากยอดการระดมทุนจากซัพพลายเออร์จีน ซึ่งมีสถาบันการเงินเป็นหลักนั้น ประกอบไปด้วยสินเชื่อธนาคาร เงินกู้แบบต่างๆ ตั๋วแลกเงินที่ธนาคารรับรอง หุ้นกู้ของภาคเอกชน ยอดขายหุ้นของสถาบันนอกภาคการเงิน การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ การทดแทนเงินประกัน และเงินกู้จากบริษัทเงินกู้ขนาดเล็ก
ข้อมูลเมื่อวานนี้ชี้ว่า สถาบันการเงินจีนมียอดปล่อยกู้ใหม่สกุลหยวนทั้งหมด 8.89 ล้านล้านหยวนตลอดทั้งปี 2556 โดยตัวเลขดังกล่าว ซึ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 4 ปีนั้น ค่อนข้างสอดคล้องกับการคาดการณ์ตลาด
นายเซิง ซเงเฉิง หัวหน้าฝ่ายสำรวจและสถิติของธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า การปล่อยกู้สกุลหยวนจากธนาคารต่างๆ ซึ่งยังเป็นแหล่งการระดมทุนที่มีความสำคัญมากที่สุดสำหรับผู้ประกอบการและภาคครัวเรือนของจีน คิดเป็นสัดส่วน 51.4% ของยอดการระดมทุนเชิงสังคมทั้งหมดในปี 2556
นายเซิงเสริมว่ายอดเงินกู้แบบ entrust และ trust ซึ่งเป็นสองส่วนหลักๆในการจัดหาเงินทุนนอกงบดุลของสถาบันการเงินต่างๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.55 ล้านล้านหยวน และ 1.84 ล้านล้านหยวน ตามลำดับ ในปี 2556 โดยตัวเลขทั้งสองประเภทนั้นอยู่ในระดับที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งบ่งชี้ว่าธุรกิจการระดมทุนนอกงบดุลนั้นกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ส่วนปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 ซึ่งครอบคลุมเงินสดหมุนเวียนและเงินฝากทั้งหมด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.6% เทียบรายปี แตะ 110.65 ล้านล้านหยวน ณ สิ้นปี 2556
ข้อมูลที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ทำให้ตลาดมีความสับสนเกี่ยวกับสภาพคล่องของจีน หลังจากที่เกิดปัญหาสภาพคล่องตึงตัวในตลาดการเงินของจีนเมื่อช่วงปลายเดือนมิ.ย.และธ.ค.2556 เมื่อธนาคารกลางจีนปฏิเสธที่จะอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อช่วยเหลือธนาคารต่างๆอย่างต่อเนื่อง หลังอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารของจีนพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
บรรดาผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนถึงการใช้เงินทุนอย่างไร้ประสิทธิภาพในระบบการเงินของจีน เนื่องจากเงินทุนจำนวนหนึ่งไม่ได้ถูกส่งไปยังมือผู้ที่ต้องการโดยตรง แต่กลับมีการเคลื่อนไหวระหว่างธนาคารต่าง
นักวิเคราะห์ตลาดชี้ว่า ธนาคารกลางจีนจะเดินหน้าความพยายามเพื่อลดภาระหนี้สินในระบบการเงิน และปรับปรุงประสิทธิภาพของตลาดการเงินจีน หลังจากที่ธนาคารกลางจีนได้ออกมาเปิดเผยครั้งแรกในเดือนพ.ย.ว่าอาจมีการปรับลดระดับลง
นายเซิงเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า จีนจะยังคงเดินหน้านโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง และควบคุมสภาพคล่องไม่ให้ตึงหรือหย่อนจนเกินไปในปี 2557 เพื่อสร้างภาวะแวดล้อมทางการเงินที่มั่นคงและเอื้อต่อการขยายตัว
จากการรวบรวมข้อมูลของสำนักข่าวซินหัว ทางธนาคารจีนได้ระงับการดำเนินการซื้อพันธบัตรในตลาดรองเป็นเวลา 3 สัปดาห์ติดต่อกัน ซึ่งส่งสัญญาณอย่างไม่เป็นทางการถึงนโยบายการเงินที่ค่อนข้างคุมเข้ม
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืน Shanghai Interbank Offered Rate (Shibor) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนการกู้ยืมระหว่างธนาคารนั้น ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2.7513 เมื่อวานนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน