China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนอ่อนค่าลง 0.43% แตะที่ระดับ 6,1146 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐเมื่อวานนี้ ซึ่งนับเป็นวันที่ 3 ที่ค่ากลางของเงินหยวนอ่อนค่าลงมาอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยลดลง 0.20% ในวันอังคาร และ 0.30% ในวันพุธที่ผ่านมา
ยิ่งไปกว่านั้น อัตราแลกเปลี่ยนเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในวันพฤหัสบดียังอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา แม้ว่าเงินหยวนจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.093 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2557 ก็ตาม
นักวิเคราะห์ระบุว่า การอ่อนค่าลงของเงินหยวนเกิดขึ้นในขณะที่ธนาคารรายใหญ่กว้านซื้อสกุลเงินต่างประเทศ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่นักลงทุนที่เคยมีความหวังกับเงินหยวนแข็งค่า ต่างเริ่มที่จะปรับแผนกลยุทธ์กันแล้ว
การเติบโตมทางเศรษฐกิจของจีนอ่อนตัวลงแตะ 7.7% ในปี 2556 เปรียบเทียบกับ 7.8% ในปี 2555 รายงานจากมหาวิทยาลัยเซี่ยเหมินรายงานคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนว่า จะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 7.62% ในปี 2557
ปัจจัยชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญ อาทิ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ลดลง 50.5% ในเดือนมกราคม แตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่ดีนักสำหรับเศรษฐกิจจีนในปี 2557
เหลียน ปิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่แบงก์ ออฟ คอมมูนิเคชั่นส์ กล่าวว่า การค้าระหว่างประเทศของจีนดูจะมีความสมดุลมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยคลายความวิตกกังวลเรื่องการแข็งค่าของเงินหยวน ขณะเดียวกัน การปรับลดขนาดมาตรการ QE ของสหรัฐก็ไม่ได้ทำให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้นอีกต่อไป
ซง เหลียง นักวิเคราะห์การเงินระหว่างประเทศของแบงก์ ออฟ ไชน่า ระบุว่า ขณะนี้เงินทุนจากตลาดเกิดใหม่กำลังไหลกลับเข้ามาสู่ตลาดประเทศที่พัฒนาแล้ว หลังจากที่สหรัฐเริ่มลดวงเงินการซื้อสินทรัพย์ลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในทุกๆเดือนโดยเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา
ซง เหลียงกล่าวว่า การลดมาตรการ QE ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนในตลาดเกิดใหม่เกิดการผันผวนมากยิ่งขึ้น และยังทำให้เกิดการคาดการณ์เรื่องการแข็งค่าของเงินหยวน
ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ระบุว่า การตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งผลให้เงินทุนต่างชาติไหลออกจากประเทศจำนวนมากในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เนื่องจาก "นักลงทุนเริ่มหันกลับไปลงทุนในสหรัฐ"
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ระบุว่า การลดมาตรการ QE อาจจะช่วยเปิดโอกาสที่มีค่าแก่จีนในการเดินหน้าเพื่อปฏิรูประบบอัตราแลกเปลี่ยนของเงินหยวน
ธนาคารกลางจีนประกาศในช่วงกลางปี 2553 ว่า ธนาคารจะส่งเสริมการปฏิรูประบบอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวนให้มากยิ่งขึ้น และเพิ่มสภาพคล่องของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวน
ธนาคารระบุว่า จะค่อยๆพัฒนากลไลการปฏิรูปอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวน และขยายกรอบการลอยตัวของสกุลเงินหยวน
ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 1% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน
ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน