ข้อมูลจากกรมพลังงานจีน (NEA) ระบุว่า ปริมาณการใช้ไฟฟ้า ซึ่งเป็นตัวชี้วัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพิ่มขึ้น 4.5% ในช่วงสองเดือนแรกของปี 2557 โดยการขยายตัวดังกล่าวลดลง 1% จากอัตราขยายตัวในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
การชะลอตัวของการใช้ไฟฟ้ามีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปริมาณการใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมที่ลดน้อยลง โดยการใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมคิดเป็นสัดส่วน 70% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดในประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่มีการใช้พลังงานสูง อาทิ เหล็กและเหล็กกล้า, ซีเมนต์ และปิโตรเคมี
ไต้ ปิง นักวิเคราะห์จาก 315.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซออน์ไลน์ กล่าวว่า ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่หดตัวลงนั้นสามารถเห็นได้ในภาคการผลิตและอุตสาหกรรมโลหะ ซึ่งต้องเผชิญกับช่วงขาลงตามฤดูกาลและภาวะซบเซาของภาคอุตสาหกรรมโดยรวมในช่วงสองเดือนแรกของปี
ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ การใช้ไฟฟ้าในอุตสาหกรรมประเภทที่ 1 มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 1.13 หมื่นล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งลดลงจากปีก่อน 7.8% ขณะที่การใช้ไฟฟ้าในอุตสาหกรรมประเภทที่ 2 มีปริมาณทั้งสิ้น 5.82 แสนล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง เพิ่มขึ้น 4.3% และการใช้ไฟฟ้าในอุตสาหกรรมประเภทที่ 3 มีปริมาณทั้งสิ้น 1.094 แสนล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง เพิ่มขึ้น 5%
ข้อมูลจากหน่วยงานด้านสถิติเผยให้เห็นว่า ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์นั้นแสดงถึงการชะลอตัวในภาคส่วนต่างๆ ซึ่งรวมถึงผลผลิตอุตสาหกรรม และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร
หวัง จุน นักวิจัยที่ศูนย์การแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศของจีน กล่าวว่า "ตัวเลขที่อ่อนแอเป็นผลมาจากมาตรการขจัดกำลังการผลิตที่ล้าสมัยซึ่งรัฐบาลดำเนินมาตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 โดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหมอกควันที่รุนแรงขึ้น"
นักวิเคราะห์หลายรายคาดการณ์ว่า การควบคุมที่เข้มงวดในภาคอุตสาหกรรมที่มีการใช้พลังงานสูงและมีกำลังการผลิตส่วนเกินนั้นจะยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมเหล่านั้น
ในระยะสั้น นายไต้ ปิง คาดการณ์ว่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าจะฟื้นตัวขึ้นในเดือนนี้ เนื่องจากการผลิตถ่านหินยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
การไฟฟ้าจีนคาดการณ์ว่า การใช้ไฟฟ้าของจีนจะขยายตัวอย่างมั่นคงในปีนี้ที่ 7% ซึ่งสอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ
เศรษฐกิจจีนเติบโต 7.7% ในปีที่แล้ว ซึ่งเกินเป้าที่รัฐบาลได้ตั้งไว้ แต่ข้อมูลต่างๆที่มีการเปิดเผยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานั้นชี้ว่ากิจกรรมการผลิตอ่อนแรงลง ทำให้หลายฝ่ายกลับมาวิตกกังวลอีกครั้งเกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตในเดือนกุมภาพันธ์ ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบแปดเดือน และชะลอตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม
ทั้งนี้ สถาบันหลายแห่งได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในช่วงไตรมาสแรก โดยแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริลล์ ลินช์ ได้หั่นคาดการณ์การเติบโตของ GDP ในไตรมาสแรกจาก 8% เหลือ 7.3% ขณะที่ศูนย์ศึกษาว่าด้วยจีนในเศรษฐกิจโลก (CCWE) ภายใต้มหาวิทยาลัยชิงหัว ปรับลดคาดการณ์เหลือ 7.4% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 7.5% เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา