ประธานาธิบดีจีนได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการกลางด้านการเงินและเศรษฐกิจในฐานะหัวหน้าคณะ ซึ่งที่ประชุมมองว่า จีนกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆในการรับมือกับความต้องการพลังงานที่สูงขึ้น ข้อจำกัดด้านอุปทาน ต้นทุนมหาศาลด้านสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีที่ยังล้าหลัง
สี จิ้นผิง กล่าวว่า เพื่อสร้างความมั่นใจด้านความมั่นคงทางพลังงานของจีน จีนจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อควบคุมการใช้พลังงานที่ไม่เหมาะสม และควบคุมการใช้พลังงานของประเทศด้วยการใช้นโยบายประหยัดพลังงานอย่างเต็มรูปแบบ
การปฏิรูปอุปทานด้านพลังงานจะมีขึ้น เพื่อจัดตั้งระบบควบคุมการใช้ถ่านหินและเชื้อเพลิงที่ไม่ใช่ถ่านหินอย่างมีประสิทธืภาพมากขึ้น รวมทั้งน้ำมัน แก็ส พลังงานนิวเคลียร์ และพลังงานประเภทใหม่
ผู้นำจีนยังได้ผลักดันให้มีการสร้างนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีพลังงาน เพื่อทำให้อุตสาหกรรมพลังงานเป็นคลังพลังงานเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ จีนจะผลักดันให้เกิดการปฏิรูปทั้งในด้านกลไกการจัดตั้งราคา และส่งเสริมตลาดพลังงานให้สามารถแข่งขันกันได้
ทางด้านหลิน โปเจียง นักวิจัยด้านพลังงานของมหาวิทยาลัยเซียะเหมิน กล่าวว่า ผู้นำจีนมองว่า พลังงานเป็นประเด็นเชิงยุทธศาสตร์สำหรับการพัฒนาและความมั่นคงของประเทศ
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์หลายรายมองว่า นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์เพื่อบริหารจัดการนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อที่จะผลักดันให้เกิดการปฏิรูปด้านการผลิตพลังงานและการบริโภค
หนิว ลี่ นักเศรษฐศาสตร์ของศูนย์ข้อมูลรัฐบาล กล่าวว่า แก็สจากถ่านหิน แก็สไฮเดรท รถยนต์พลังงานไฟฟ้า และศูนย์ผลิตพลังงานที่มีประสิทธิภาพมีแนวโน้มว่าจะเป็นประเด็นสำคัญในการส่งเสริมการปฏิรูปด้านพลังงาน
ภายหลังจากที่เกิดวิกฤตการเงิน ทุกประเทศกำลังพยายามที่สนับสนุนเทคโนโลยีใหม่ๆด้านพลังงาน ในฐานะที่เป็นเครื่องจักรชนิดใหม่ที่จะขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ผู้นำจีน กล่าวว่า จีนกำลังจัดทำนโยบายในการกำหนดการผลิตและบริโภคพลังงานในอนาคต และจะเร่งทบทวนกฎเกณฑ์ต่างๆที่ล้าสมัยไปแล้ว
ทางการจีนจะปรับปรุงเครื่องผลิตพลังงานจากถ่านฟินที่ไม่สามารถลดปริมาณการปลดปล่อยมลภาวะได้ตามกำหรด รวมทั้งเดินหน้าพัฒนาเครือข่ายจัดส่งไฟฟ้าทางไกลอย่างต่อเนื่อง
ภายใต้เงื่อนไขด้านมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดนั้น จีนจะเปิดตัวโครงการนิวเคลียร์ใหม่ในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ จีนจะขยายขอบเขตความร่วมมือด้านน้ำมันและแก็สกับประเทศในเอเชียกลาง ตะวันออกกกลาง อเมริกา และแอฟริกา
ผู้นำจีน กล่าวว่า จีนยังจะเพิ่มการสำรวจหาแหล่งพลังงาน และสร้างท่อส่งน้ำมันและแก็ส ตลอดจนคลังกักเก็บพลังงานมากยิ่งขึ้น
ด้วยการสนับสนุนเรื่องการพัฒนาอุตสาหกรรมและเมืองนั้น ส่งผลให้ความต้องการด้านพลังงานของจีนพุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ปัจจุบัน จีนจังเป็นประเทศผู้ผลิตและใช้พลังงานรายใหญ่ที่สุดในโลก
แต่ปัจจัยที่ไม่แน่นอนในต่างประเทศ อาทิ สถานการณ์ทางการเมืองที่ซับซ้อนทำให้จีนค้องการผลิตพลังงานมากขึ้นด้วยตนเอง
ในขณะเดียวกัน ปัญหามลภาวะในประเทศก็บีบให้จีนต้องลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิงจากถ่านหิน และเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน สำนักข่าวซินหัวรายงาน