ธนาคารกลางจีน ประกาศว่า ในเดือนนี้มีการปรับลดสัดส่วนการกันสำรอง (RRR) ลง 0.5% สำหรับธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อแก่บริษัทขนาดเล็ก ที่ขาดแคลนเงินทุน โดยบริษัทในกลุ่มนี้คิดเป็นสัดส่วนกว่า 70% ของบริษัททั้งหมดในตลาด
นายเซียง ซ่งโซว หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารอากริคัลเจอรัล แบงก์ ออฟ ไชน่า คาดการณ์ว่า การปรับลดดังกล่าวจะช่วยให้มีเม็ดเงินทุนที่สามารถปล่อยกู้ได้ 3.5 แสนล้านหยวน (5.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีผลดีอย่างมากต่อเศรษฐกิจที่แท้จริง หากใช้อย่างเหมาะสม
ขณะนี้ บริษัทขนาดเล็กพอใจกับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีที่ได้รับ รวมถึงการปรับลดค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการ และเข้าถึงตลาดได้ง่ายขึ้น ผลที่ได้รับจากนโยบายเหล่านั้นสะท้อนออกมาให้เห็นในเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ในมณฑลไหหลำ ทางตอนใต้ของจีน ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นสนับสนุนด้านการเงิน ที่ดินและการอนุมัติของฝ่ายบริหาร โดยเป็นทำเลทองของกว่า 300 บริษัท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่ก่อตั้งใหม่ขนาดเล็ก ขณะที่การขอคืนภาษีในอัตรา 30% นั้นเป็นสิทธิพิเศษสำหรับบริษัทที่มีการจ่ายภาษีไม่ถึง 300,000 หยวนต่อปี โดยให้สิทธิเป็นเวลา 3 ปีนับจากวันที่เข้ามาดำเนินกิจการในเขตอุตสาหกรรมดังกล่าว
นายว่าน เผิง จากบริษัทไหหลำ จิวชุน ไซนซ์ แอนด์ เอ็ดดูเคชัน มีเดีย กล่าวชื่นชมมาตรการดังกล่าวอย่างมาก โดยความช่วยเหลือดังกล่าวทำให้บริษัทของเขาสามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้ และในปัจจุบัน บริษัทของนายว่านมีพนักงานกว่า 100 คน และกำลังขยายกิจการไปใน 4 มณฑลทางตอนใต้ของจีนอีกด้วย
คำว่า "เล็ก" ในแง่ของธุรกิจจีนหมายถึง บริษัทในภาคอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ที่มีมูลค่าสินทรัพย์รวมทั้งหมดไม่เกิน 30 ล้านหยวน และ 10 ล้านหยวนสำหรับบริษัทในภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ส่วนในแง่ของจำนวนพนักงาน บริษัทขนาดเล็กควรมีพนักงานไม่เกิน 100 คน และเสียภาษีไม่เกิน 300,000 หยวน โดยบริษัทขนาดเล็กในลักษณะดังกล่าวมีจำนวนประมาณ 11.7 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 77% ของจำนวนบริษัททั้งหมด
สำนักงานบริหารอุตสาหกรรมและการพาณิชย์จีนระบุว่า หากพิจารณาถึงบริษัทที่บริหารโดยบุคคลคนเดียว ก็จะมีจำนวนบริษัทมากกว่าถึง 5 เท่า และคิดเป็นอัตราส่วน 94%
แม้มีรายได้ที่จำกัดและผลกำไรที่ไม่แน่นอน แต่บริษัทขนาดเล็กดังกล่าวกลับช่วยหนุนจีดีพีได้มากถึง 60% และชำระภาษีครึ่งหนึ่งของการเรียกเก็บภาษีทั้งประเทศ อีกทั้งยังสร้างงานใหม่กว่า 70% ด้วย
นายถัง เจียนเหว่ย นักวิเคราะห์อาวุโสจากแบงก์ ออฟ คอมมูนิเคชันส์ ให้ความเห็นว่า การสนับสนุนจากรัฐบาลเป็นเรื่องที่เหมาะสมและมีความจำเป็นในสถานการณ์ปัจจุบัน
ในขณะที่ นายไป่ จิงหมิง รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยด้านงบประมาณ ภายใต้กระทรวงการคลัง กล่าวว่า มาตรการในช่วงที่ผ่านมานี้จะช่วยให้บริษัทต่างๆมีความมั่นใจ สร้างงาน และเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น
นายเมี่ยว เหว่ย รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศจีน ระบุว่า ในฐานะที่เป็นรากฐานของเศรษฐกิจที่แท้จริงของจีน บรรดาผู้ประกอบการขนาดเล็กเหล่านี้จึงมีบทบาทเฉพาะตัวที่สำคัญในด้านความได้เปรียบทางเศรษฐกิจ นวัตกรรมเทคโนโลยี และความมั่นคงทางสังคม
บริษัทขนาดเล็กในจีนยังคงต้องเผชิญกับอุปสรรคอยู่ ทั้งด้านต้นทุนการระดมทุนและภาษีที่ไม่สามารถลดลงได้อีก และค่าแรงที่ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายถัง เจียนเว่ยต้องการให้รัฐบาลกลางมีความจริงจังมากกว่านี้ในการปรับลดภาษีและในการสนับสนุนด้านการเงิน ซึ่งจะเป็นการช่วยบริษัทขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากเศรษฐกิจในช่วงขาลงได้อย่างแท้จริง ขณะเดียวกัน ควรมีการจัดตั้งธนาคารที่มุ่งเน้นปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทขนาดเล็ก เพื่อจัดสรรสภาพคล่องสำหรับนักลงทุนรายย่อย แต่มีความสำคัญในตลาด