เหลียน ปิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารแบงก์ ออฟ คอมมิวนิเคชันส์ (BOCOM) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 7.4% ในไตรมาส 4 ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจตลอดทั้งปีขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพแทบจะในอัตราเดียวกัน
ในขณะที่ปัจจัยชี้วัดทางเศรษฐกิจเดือนก.ย.และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 มีกำหนดการเปิดเผยในเดือนนี้ นักเศรษฐศาสตร์ภาคเอกชนจำนวนหนึ่งคาดว่า ปัจจัยดังกล่าวในไตรมาส 3 จะปรับตัวลง
หวัง เถา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำประเทศจีนของยูบีเอส ประเมินว่า จีดีพีไตรมาส 3 จะขยายตัวลดลงสู่ระดับ 7.1% ขณะที่นายเหลียนคาดว่า จีดีพีจะขยายตัว 7.3% แต่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จะร่วงลงอย่างหนักซึ่งจะฉุดการลงทุนและเศรษฐกิจโดยรวมไปพร้อมกัน
ในทางตรงกันข้าม การส่งออกของจีนที่สูงขึ้น รวมทั้งนโยบายการคลังและการเงินในเชิงสนับสนุนเศรษฐกิจ จึงทำให้เกิดมุมมองอย่างแพร่หลายว่า จีดีพีของจีนไตรมาส 4 จะแซงหน้าไตรมาส 3
นายเหลียนระบุว่า อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นไปได้อีกมากที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในโยบายทางการคลังที่ใช้แก้ปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่คาดไม่ถึง และการใช้จ่ายทางการคลังที่เพิ่มขึ้นอาจสร้างเสถียรภาพให้แก่การผลิตในภาคอุตสาหกรรม
"เป็นไปได้มากที่การส่งออกจะปรับตัวดีขึ้นในอนาคต ก่อนที่จะถึงช่วงจับจ่ายเทศกาลคริสต์มาส เมื่อประเมินจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวในประเทศพัฒนาแล้วบางส่วน รวมถึงสหรัฐ" เฉิน จงเถา นักวิเคราะห์จากศูนย์สารสนเทศโลจิสติกส์จีนระบุ
ขณะที่รายงานล่าสุดโดยนักวิเคราะห์ของ BOCOM ก็มีข้อมูลสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน โดยระบุว่า การส่งออกของจีนในไตรมาส 4 อาจจะขยายตัวอย่างแข็งแกร่งจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในต่างประเทศ
ทั้งนี้ ราคาและยอดขายบ้านในเมืองหลายแห่งของจีนปรับตัวลง ทำให้รัฐบาลประกาศผ่อนคลายกฎเกณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัย เพื่อเพิ่มจำนวนผู้มีศักยภาพในการซื้อบ้านและเพิ่มวงเงินที่กู้ยืมได้ สำหรับผู้ซื้อบ้านหลังที่ 2 ซื่งชำระหนี้บ้านหลังแรกจนครบแล้วจะมีสถานะเทียบเท่ากับผู้ซื้อบ้านหลังแรก
ไฉ่ จิน รองผู้อำนวยการของสหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) กล่าวว่า การฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมซีเมนต์และอื่นๆ อันเนื่องมาจากโครงการโครงสร้างพื้นฐานนั้น อาจจะช่วยหนุนการขยายตัวในไตรมาส 4
ทางด้านนักวิเคราะห์ของ CITIC Securities ระบุในรายงานว่า การเปลี่ยนกฎเกณฑ์สินเชื่อที่พักอาศัยอาจจะช่วยหนุนความต้องการ ขณะที่ธนาคารกลางจีนกำลังดำเนินการเพื่อลดดอกเบี้ยสำหรับภาคธุรกิจ ซึ่งปัจจัยทั้งสองอาจช่วยหนุนการขยายตัวในเดือนต่อๆไป
ขณะที่ศาสตราจารย์หลี่ เตาคุย จากมหาวิทยาลัยชิงหวา เตือนว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์กำลังจะเผชิญการปรับตัวครั้งสำคัญ ซึ่งอาจกินเวลา 1 หรือ 2 ปี จีนจะต้องหากลไกใหม่ๆเพื่อผลักดันการขยายตัวแทนที่กลไกการผลักดันจากภาคอสังหาริมทรัพย์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน