ส่วนการนำเข้าในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบรายปี แตะ 1.827 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2556
ส่วนมูลค่าระหว่างประเทศในเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 11.3% สู่ระดับ 3.964 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ ยอดการค้าเกินดุลเดือนก.ย. ยังปรับตัวขึ้นจากปีที่แล้ว สู่ระดับ 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
นายเจิ้ง ยู่เฉิง โฆษกสำนักงานศุลกากรจีน กล่าวว่า การค้าระหว่างประเทศของจีนปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งเมื่อเทียบรายไตรมาส แม้ว่าเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะปั่นป่วน
โฆษกเผยว่า การขยายตัวที่แข็งแกร่งในเดือนก.ย. เป็นผลมาจากการที่รัฐบาลใช้มาตรการต่างๆ ในเดือนพ.ค.เพื่อสร้างเสถียรภาพทางการค้ากับต่างประเทศ รวมถึงอุปสงค์ทั่วโลกที่ดีดตัวขึ้น
นายเจิ้งกล่าวว่า "เราหวังว่าแนวโน้มที่แข็งแกร่งดังกล่าวจะมีความต่อเนื่องในไตรมาส 4" และเสริมว่า แรงกดดันด้านการส่งออกจะผ่อนคลายลงในไตรมาส 4 นี้
ทางด้านนายหลู เจิ้งเหว่ย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่ธนาคารอินดัสเทรียล แบงก์ แทบไม่มีมุมมองบวกเกี่ยวกับแนวโน้มการค้าของจีน ซึ่งสวนทางกับทัศนะในเชิงบวกของทางการ โดยเขาเตือนว่า "ความแข็งแกร่งในด้านการส่งออกจะเป็นไปในช่วงสั้นๆ และภาวะย่ำแย่จะกลับมาอีกครั้งในเร็วๆนี้"
นายหลูคาดการณ์ว่า การส่งออกจะชะลอตัวลงอย่างหนักในไตรมาส 4 โดยอิงกับประสบการณ์ความผันผวนทางการค้าในช่วงที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ ตลาดคาดว่ายอดนำเข้าในเดือนก.ย.จะลดลง 2% และการส่งออกจะปรับตัวขึ้น 12%
สำหรับช่วงเดือนม.ค.-ก.ย. การค้ากับต่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบรายปี แตะ 3.16 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 5.1% แตะ 1.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และยอดการนำเข้าปรับตัวขึ้นเช่นกัน 1.3% สู่ระดับ 1.46 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนยอดเกินดุลการค้าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัว 37.8% จากปีก่อนหน้า แตะ 2.316 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ด้านสหภาพยุโรป (อียู) ยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีน โดยมูลค่าการค้าทั้งหมดอยู่ที่ 2.81 ล้านล้านหยวน (4.57 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย. ซึ่งปรับตัวขึ้น 10.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ปรับตัวขึ้น 5.2% เมื่อเทียบรายปี แตะ 2.48 ล้านล้านหยวนในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย. ขณะที่การค้ากับกลุ่มอาเซียนก็เพิ่มขึ้น 6% สู่ระดับ 2.13 ล้านล้านหยวน
แต่การค้าระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงลดลง 13% แตะ 1.61 ล้านล้านหยวน ในช่วง 9 เดือนแรกของปี สำนักข่าวซินหัวรายงาน