สกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งเป็นสกุลเงินที่มีความปลอดภัยของเอเชีย ก็ไม่เว้นที่จะได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงหลายระลอกของสกุลเงินต่างๆในเอเชียเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อเร็วๆนี้ ดอลลาร์สิงคโปร์ได้รับแรงกดดันอย่างหนัก ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน โดยพุ่งขึ้นไปแตะสูงถึง 1.3101 ดอลลาร์สิงคโปร์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซั้อขายช่วงเช้าของวันที่ 20 พ.ย. ก่อนจะอ่อนแรงมาอยู่ใกล้ 1.30 ดอลลาร์สิงคโปร์
ยูโอบี โกลบอล อิโคโนมิคส์ แอนด์ มาร์เก็ต รีเสิร์ช กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ดอลลาร์อาจจะแข็งค่าสู่ระดับ 1.3453 ดอลลาร์สิงคโปร์ในไตรมาสแรกปีหน้า เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มในปัจจุบัน
ในความเป็นจริงแล้ว ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นช่วงที่ยากลำบากของสกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ ซึ่งไม่เพียงแต่จะอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น แต่ยังปรับตัวลงเมื่อเทียบกับยูโรอีกด้วย
เอชเอสบีซี โกลบอล รีเสิร์ช ระบุว่าการปรับตัวลงของสกุลเงินเอเชียช่วยให้มองเห็นแนวโน้มในปี 2558 ซึ่งอาจจะมีความผันผวนมากขึ้นและตลาดปริวรรตเงินตราในเอเชียจะอ่อนแรงลงอย่างต่อเนื่อง แม้แต่เงินสกุลหยวนก็จะเข้าสู่ช่วงที่มีความผันผวนมากขึ้นเช่นเดียวกัน
เอบีเอ็น แอมโร รีเสิร์ช ระบุว่า ความผันผวนที่สูงขึ้นดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับการทะยานขึ้นต่อเนื่องของดอลลาร์สหรัฐ โดยการปรับตัวขึ้นของดอลลาร์สหรัฐจะได้รับแรงหนุนอย่างต่อเนื่องจากแนวโน้มที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐในอีก 2 ปีข้างหน้า เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจสหรัฐกำลังปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ยอดขาดดุลงบประมาณของประเทศปรับตัวลงและตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
นอกจากนี้ แนวโน้มของสกุลเงินดอลลาร์ยังมีความสดใส ท่ามกลางการคาดการณ์ในวงกว้างว่า สหรัฐจะเริ่มคุมเข้มนโยบายการเงินในปี 2558 ส่วนธนาคารกลางอื่นๆ เช่น ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะยังคงใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินเพิ่มขึ้นงเพื่อป้องกันไม่ให้อัตราเงินเฟ้อต่ำเกินไป และเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ
แต่ในขณะที่สกุลเงินอื่นๆจะยังคงมีความยืดหยุ่นมากกว่าสกุลเงินเอเชีย เอชเอสบีซีระบุว่าภาวการณ์ดังกล่าวมีความชัดเจนน้อยลงเมื่อการดำเนินนโยบายของอีซีบีและบีโอเจได้เริ่มส่งผลต่อตลาด
ถึงแม้ว่าสกุลเงินเอเชียที่ค่อนข้างจะมีความสมดุลในต่างประเทศเช่นสกุลหยวนของจีน สกุลวอนของเกาหลีใต้ และสกุลดอลลาร์สิงคโปร์จะมีสถานะที่ดีกว่า แต่การออกมาตรการเพิ่มเติมของอีซีบีและธนาคารกลางญี่ปุ่นจะกระตุ้นให้ดอลลาร์แข็งค่ายิ่งขึ้น มีแต่จะส่งผลให้สกุลเงินเหล่านี้ปรับตัวลดลงเท่านั้น
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเอเชียยังมีแนวโน้มจะไม่เข้าแทรกแซงการปรับตัวลดลงของสกุลเงินของประเทศดังเช่นที่เคยทำในอดีต เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อกำลังลดลงในหลายประเทศ และแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจก็ชะลอลง
บทวิเคราะห์โดย ชีห์ หมิง จากสำนักข่าวซินหัว