ตลาดหุ้นจีนเปิดตลาดในแดนบวกในวันทำการแรกของปี 2558 โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดบวก 0.74% ที่ระดับ 3,258.63 จุด ในขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้นเปิดตลาดที่ 11,150.98 จุด เพิ่มขึ้น 1.24%
นักวิชาการและสถาบันต่างๆได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางที่มีความเป็นไปได้สำหรับตลาดหุ้นจีนในปี 2558 ดังนี้ :-
สถาบันสังคมศาสตร์ของจีนประเมินว่า ตลาดหุ้นจีนจะอยู่ในช่วงขาขึ้นในปี 2558 แต่จะไม่หวือหวามากนัก
สถาบันสังคมศาสตร์จีนระบุว่า "มีแนวโน้มสูงที่ตลาดหุ้นจะปรับตัวในช่วงขาขึ้น แต่ไม่ร้อนแรงมากนักในปี 2558 และในปัจจุบัน ตลาดได้เริ่มอยู่ในภาวะนี้แล้ว"
ในการคาดการณ์ดังกล่าว สถาบันสังคมศาสตร์จีนได้อ้างอิงปัจจัย 3 ประการ อันได้แก่ อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ซึ่งจะส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงมีความน่าดึงดูดใจมากขึ้น, กระแสเงินทุนที่ไหลออกจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาไปสู่ช่องทางการลงทุนใหม่ๆ และแนวโน้มที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
ฝ่ายวิจัยกลยุทธ์ของไชน่า อินเตอร์เนชันแนล แคปิตอล คอร์ป (CICC) : การปฏิรูปเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักที่สำคัญ
CICC มองว่า มาตรการปฏิรูปที่ครอบคลุมและต่อเนื่องของจีนจะเป็นแรงผลักดันหลักสำหรับตลาดหุ้นในปี 2558 โดยระบุถึงการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบในการเพิกถอนหุ้นออกจากตลาดและขั้นตอนในการจดทะเบียนในตลาดหุ้น
แม้ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีความผันผวนในระยะใกล้ แต่ CICC ยังคงมีมุมมองบวกเกี่ยวกับตลาดในปี 2558 โดยคาดว่าตลาดหุ้น A-share จะปรับตัวขึ้น 20%
ซิติค ซิเคียวริตีส์: โอกาสครั้งประวัติศาสตร์ที่มีไม่บ่อยนัก
ซิติค ซิเคียวริตีส์ระบุว่า สภาพคล่องจำนวนมาก การยกระดับตลาดทุนสู่สากล และการปฏิรูป จะเป็นปัจจัยที่ร่วมกันผลักดันตลาดหุ้นในปี 2558
ท่ามกลางยุค "ดุลยภาพใหม่" ของจีน ซึ่งเป็นช่วงที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอลงนั้น การปรับโครงสร้างและคุณภาพการขยายตัวที่ปรับตัวดีขึ้น จะทำให้เกิด "โอกาสครั้งประวัติศาสตร์ที่มีไม่บ่อยนัก" ซึ่งจะสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดหุ้น
ไชน่า ฟอร์จูน ซิเคียวริตีส์: ความผันผวนรุนแรงขึ้น
นายฉิว หยานอิง ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนของไชน่า ฟอร์จูน ซิเคียวริตีส์ เชื่อว่า ความเคลื่อนไหวของตลาดในช่วงสิ้นปี 2557 ส่วนใหญ่ได้รับแรงผลักดันจากการกู้ยืมเพื่อมาลงทุนซึ่งมีการเก็งกำไรสูง
"ภาวะฟองสบู่ด้านราคาขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงที่ตลาดมีการปรับตัวในขาขึ้น ราคาและหนี้สินที่ระดับสูงอาจกระตุ้นให้มีความผันผวนมากขึ้นและรุนแรงขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลให้ความเสี่ยงต่างๆเพิ่มขึ้นด้วย" เขากล่าว
หมินเซิง ซิเคียวริตีส์: ภาวะคึกคักอย่างไม่สมเหตุสมผลฉุดรั้งศักยภาพของตลาด
หมินเซิง ซิเคียวริตีส์คาดว่า ในระยะใกล้ ความเสี่ยงที่รุนแรงที่สุดในตลาดหุ้นจะมาจากแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบาย ขณะที่การชะลอตัวทางเศรษฐกิจและภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นได้สกัดการดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม โดยระบุเพิ่มเติมว่า "ภาวะคึกคักอย่างไม่สมเหตุสมผลในปีที่แล้วได้บั่นทอนศักยภาพในการปรับขาขึ้นของตลาด"
เมื่อพิจารณาจากมุมมองในระยะกลาง ความเสี่ยงที่รุนแรงที่สุดก็คือ ความเป็นไปได้ที่อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในเศรษฐกิจที่แท้จริงและราคาสินทรัพย์ที่สูงขึ้นอาจทำให้ต้นทุนในการระดมทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการลงทุนของประชาชน สำนักข่าวซินหัวรายงาน