ส่วนจีดีพีในไตรมาส 4 ปี 2557 นั้น คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 7.3% ซึ่งเท่ากับในไตรมาส 3 แต่ต่ำกว่าจีดีพีของตลอดทั้งปี 2557 ขณะที่การขยายตัวที่ชะลอลงในในปี 2557 บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนจะเผชิญอุปสรรครุนแรงขึ้นใปนี 2558 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไตรมาสแรก เมื่อการขยายตัวของจีดีพีอาจจะใกล้เคียง 7%
นายถัง เจียนเหว่ย นักวิเคราะห์อาวุโสของศูนย์วิจัยทางการเงินของแบงก์ ออฟ คอมมิวนิเคชันส์ กล่าว่า แม้แรงกดดันด้านเศรษฐกิจลดน้อยลง แต่จีดีพีของจีนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 อาจทรงตัวที่ราว 7.3% เมื่อเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างช้าๆ และราคาน้ำมันยังคงอยู่ในระดับต่ำ
นับตั้งแต่จีดีพีของจีนขยายตัว 7.4%, 7.5% และ 7.3% เมื่อเทียบรายปี ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2557 ตามลำดับ และหากจีดีพีเพิ่มขึ้น 7.3% หรือในราวนั้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 การขยายตัวตลอดทั้งปี 2557 จะอยู่ที่ราว 7.4% ซึ่งต่ำกว่าอัตรา 7.7% เมื่อเทียบรายปี ในปี 2556
แรงกดดันช่วงขาลงทางเศรษฐกิจอาจจะรุนแรงต่อไปในปี 2558 ขณะที่นายจู ไห่ปิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเจพีมอร์แกน เชส แบงก์ (ไชน่า) ประเมินว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนจะชะลอลงจาก 7.4% ในปี 2557 สู่ระดับ 7.2% ในปี 2558 ซึ่งจะเป็นอัตราที่ชะลอตัวที่สุดนับตั้งแต่ปี 2534
นายจง เหว่ย ศาสตราจารณ์จากปักกิ่ง นอร์มอล ยูนิเวอร์ซิตี กล่าวว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรกปีนี้อาจจะอยู่ในภาวะซบเซา การตกต่ำของภาคอุตสาหกรรมจะต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมี.ค.เป็นอย่างน้อยที่สุด และการขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนม.ค.อาจจะมากกว่า 1% เล็กน้อย ขณะที่การค้าต่างประเทศก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน เมื่อการค้าโลกขยายตัวช้ากว่าเศรษฐกิจเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน โดยภายใต้ภาวการณ์ดังกล่าว มีแนวโน้มอย่างมากว่าตัวเลขต่างๆทั้งหมดจะปรับตัวลงในช่วงต้นปี 2558