การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากทางการจีนเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนม.ค.ขยายตัวเพียง 0.8% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปี
เมื่อพิจารณาจากข้อมูลชี้นำทั้งหมด ตั้งแต่กิจกรรมด้านการผลิตไปจนถึงข้อมูลการค้า ต่างก็บ่งชี้ถึงความอ่อนแอ ด้วยเหตุนี้ จึงมีการคาดการณ์ว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจจะสอดคล้องกับช่วงเวลาที่ภาคเอกชนของจีนพยายามที่จะลดค่าใช้จ่ายด้านการระดมเงินทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจขนาดเล็ก
เศรษฐกิจจีนในปี 2557 ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบ 24 ปี ขณะที่ค่าใช้จ่ายที่ระดับสูงในการระดมทุนนั้น ได้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุน ทั้งในระบบเศรษฐกิจที่แท้จริงและในตลาดอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากภาวะกำลังการผลิตส่วนเกินและอุปทานล้นตลาดได้ส่งผลกระทบต่อกำไรของภาคเอกชน ดังนั้น อัตราเงินเฟ้อที่ระดับต่ำจึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่อาจจะทำให้ธนาคารกลางจีนตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะช่วยฉุดต้นทุนการกู้ยืมให้ปรับตัวลดลง
ซิตี้แบงก์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ และจะลดดอกเบี้ยลงอีกครั้งในไตรมาส 2 โดยนายติง ซวง นักเศรษฐศาสตร์ของซิตี้แบงก์สาขาประเทศจีนคาดว่า จีนอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยรอบแรกในเดือนนี้
เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ธนาคารกลางจีนได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ก็อ้างว่าการลดดอกเบี้ยในครั้งนี้ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางจีนได้ปรับลดสัดส่วนกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) สำหรับสถาบันการเงิน และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ธนาคารกลางจีนอ้างว่า การปรับลด RRR ในครั้งนี้เป็นเพียงการสกัดกระแสเงินทุนไหลออก มากกว่าที่จะเป็นการปูทางสู่การใช้มาตรการผ่อนคลายการเงิน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำหนดนโยบายการเงินของจีนไม่ให้ความสนใจที่จะใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในทางกลับกัน เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายมุ่งเน้นในนโยบายที่พุ่งเป้าไปที่การปฏิรูปและเอื้ออำนวยต่อเศรษฐกิจ แต่เงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลงอาจเป็นปัจจัยที่เร่งให้จีนใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินได้บ้าง เพื่อหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพ
นางฉาง เจี้ยน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบาร์เคลย์ส มองว่าจีนจำเป็นต้องอัดฉีดสภาพคล่องมากขึ้น เพื่อชดเชยกระแสเงินทุนหมุนเวียนที่ลดน้อยลงและผลกระทบจากการแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา และหากเงินเฟ้อแตะที่ระดับ 1% ในปีนี้ ธนาคารกลางจีนก็ควรจะใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน ผ่านการปรับลด RRR ผสมผสานกับการปรับลดดอกเบี้ย นอกจากนี้ นางฉางคาดว่า ธนาคารกลางจีนจะปรับลดสัดส่วน RRR ลงอีก 2 ครั้ง และลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน