เมื่อวานนี้ ดัชนีฮั่งเส็งที่ตลาดหุ้นฮ่องกงพุ่งขึ้น 2.7% ปิดที่ 26,944.39 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 โดยมูลค่าการซื้อขายทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.9153 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง (3.762 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากนักลงทุนจีนได้ใช้ประโยชน์จากโครงการเชื่อมโยงตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และตลาดหุ้นฮ่องกง ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถเข้าเทรดในตลาดหุ้นฮ่องกงได้
โครงการเชื่อมโยงตลาดหุ้นดังกล่าวได้รับความสนใจไม่มากนักนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อ 5 เดือนก่อน แต่ปัจจัยกระตุ้นสำคัญที่ทำให้มีแรงซื้อระลอกใหม่ก็คือการตัดสินใจของทางการจีนเมื่อเดือนที่แล้วในการอนุญาตให้บรรดาผู้จัดการกองทุนรวมของจีนสามารถเข้าซื้อโดยตรงผ่านทางโครงการเชื่อมโยงตลาดหุ้น ไม่ใช่เพราะระบบโควตาที่มีอยู่ในปัจจุบัน
นักลงทุนจีนได้เข้าซื้อหุ้นเต็มเพดานโควตารายวันของโครงการดังกล่าวที่ 1.05 หมื่นล้านหยวน (1.7 พันล้านดอลลาร์) ภายในเวลา 13.45 น.ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อวานนี้ ซึ่งนับเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันที่ต้องมีการระงับคำสั่งซื้อของนักลงทุนจีนในตลาดหุ้นฮ่องกงก่อนตลาดปิดทำการในเวลา 16.00 น. เนื่องจากมีแรงซื้อเต็มโควตาแล้ว
“กระแสเงินทุนจากจีนได้หลั่งไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นฮ่องกง ซึ่งส่งสัญญาณว่าช่วงเวลาที่ดีได้มาถึงอีกครั้ง" นายโรนัลด์ หวัน นักลงทุนที่ช่ำชองรายหนึ่งในฮ่องกงกล่าว
เขากล่าวว่า การปรับตัวของตลาดหุ้นฮ่องกจะยังคงนำโดยเม็ดเงินทุนของจีนในช่วงครึ่งปีถัดไป และคาดว่าดัชนีจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นายวิล เหลียง ผู้อำนวยการ Investment Strategy of Standard Chartered Wealth Management ก็มีความเห็นคล้ายคลึงกัน โดยกล่าวว่า “ภาวะตลาดที่คึกคักได้กลับมาอีกครั้ง ขณะที่หุ้น A-share และหุ้นสหรัฐได้ดีดตัวขึ้น 20% จากระดับต่ำสุด และกิจกรรมการควบรวมกิจการทั่วโลกได้เพิ่มมากขึ้น"
“แนวโน้มขาขึ้นน่าจะมีความต่อเนื่องไปจนกว่าธนาคารกลางสหรัฐจะประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย"
นายเหลียงกล่าวว่า การเชื่อมโยงตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และตลาดหุ้นฮ่องกงจะดึงดูดเงินทุนจากจีนให้หลั่งไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นฮ่องกงมากขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนตลาดหุ้นฮ่องกงต่อไป และกล่าวเสริมว่าจะไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจหากดัชนีฮั่งเส็งจะแตะระดับ 30,000 จุด
อย่างไรก็ตาม นายเหลียงกล่าวเตือนให้นักลงทุนระมัดระวังเกี่ยวกับความผันผวนมากขึ้นของตลาดหุ้นและแรงกดดันช่วงขาลงในระยะใกล้ แต่ระบุว่าเป็นไปไม่ได้ที่ราคาหุ้นจะร่วงลงอย่างรุนแรง
ก่อนหน้านี้ สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดคาดการณ์ว่า ดัชนีฮั่งเส็งจะผันวนอยู่ในช่วง 23,312- 27,922 จุด และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตที่ 3,049-4,016 จุด ขณะที่นายเหลียงระบุว่าดัชนีทั้งสองจะปรับตัวสูงกว่าคาดการณ์ก่อนหน้านี้
นางติง เฉิน ประธานสมาคมบริหารจัดการสินทรัพย์จีนของฮ่องกง กล่าวว่าการทะยานขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ของดัชนีฮั่งเส็งมีสาเหตุมาจากความแตกต่างกันระหว่างราคาของหุ้น A-share และหุ้น H-share
“หุ้น A-share ของบริษัทหนึ่งเคยมีราคาถูกกว่าหุ้น H-share ของบริษัทนั้น แต่หลังจากการทะยานขึ้นของหุ้น A-share ในรอบนี้ หุ้น A-share จำนวนมากมีราคาแพงกว่าหุ้น H-share"
“ก่อนที่หุ้นฮ่องกงจะพุ่งขึ้นอย่างมากเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หุ้น H-share ของบริษัทบลูชิพจำนวนมากมีราคาถูกกว่าหุ้น A-share อยู่แล้ว ดังนั้น กระแสเงินทุนจากจีนสู่ฮ่องกงจึงมีจุดประสงค์เพื่อแสวงหากำไร และจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต"
การทะยานขึ้นอย่างมากของดัชนีฮั่งเส็งในช่วง 2 วันที่ผ่านมาได้จุดปะทุความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้นฮ่องกง
นายจอห์น ซาง รมว.การเงินของฮ่องกง กล่าวว่า เขาอาจจะมองไม่เห็นถึงความเสี่ยงของภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้น แต่เตือนว่าตลาดมีความอ่อนไหว และเรียกร้องให้นักลงทุนรายย่อยมีความระมัดระวัง
ทั้งนี้ เขากล่าวว่ามีหลายเหตุผลที่ทำให้ตลาดพุ่งขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงความต้องการซื้อหุ้นที่สะสมมาหลังช่วงวันหยุดยาว พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่าตลาดหุ้นฮ่องกงกำลังดำเนินไปอย่างราบรื่น