รายงานจากเว็บไซต์ Yicai.com ระบุว่า เอสเอไอซี มอเตอร์ บริษัทรถยนต์แนวหน้าและอาลีบาบา กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่ด้านอี-คอมเมิร์ซ กำลังพัฒนารถยนต์ที่ใช้อินเตอร์เน็ตได้ ซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการหยุน (Yun) และอาลีหยุน (Aliyun) ที่เป็นบริการคลาวด์คอมพิวติ้ง
ทั้งสองบริษัทจะลงทุนมูลค่า 1 พันล้านหยวน (มากกว่า 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อจัดตั้ง "กองทุนรถอินเตอร์เน็ต" ในการผลักดันให้นักลงทุนจำนวนมากขึ้นสนับสนุนภาคส่วนดังกล่าว
ส่วนบีเอไอซี มอเตอร์ บริษัทผู้ผลิตรถอีกราย ได้ร่วมมือกับเล่อชี อินเตอร์เน็ต อินฟอร์เมชั่น แอนด์ เทคโนโลจี คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทบันเทิงออนไลน์ ในโครงการที่คล้ายคลึงกัน และวางแผนสาธิตรถรุ่นแรกที่งานมหกรรมรถยนต์ในปักกิ่ง ปี 2559
ด้านไป่ตู้ ผู้ให้บริการเสิร์ชเอนจินรายใหญ่ที่สุดของจีน แสดงความสนใจในธุรกิจนี้เช่นกัน โดยเน้นที่เทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ (self-driving technology)
แม้ว่ารถรุ่นเหล่านี้ยังไม่ได้ผลิตออกมาจากไลน์ประกอบรถ แต่หุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องก็เริ่มปรับตัวสูงขึ้นแล้ว
ทั้งนี้ จีนยังเป็นตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งยอดขายรถเพิ่มขึ้นแตะ 23.49 ล้านคันในปี 2557 แต่การขยายตัวดังกล่าวเริ่มชะลอตัวลง และการพัฒนารถยนต์อัจฉริยะแค่เพิ่งเกิดขึ้น
อย่างไรก็ดี คลื่นลูกใหญ่ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่อุตสาหกรรมเก่าแก่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตนั้น ถือเป็นโอกาสอันสดใหม่
ในการประชุมสภาประจำปีนี้ นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีนได้กระตุ้นให้ภาคส่วนดั้งเดิม เปิดรับอินเตอร์เน็ตและคลาวด์คอมพิวติ้ง ท่ามกลางเทคโนโลยีดิจิตอลอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความล้ำหน้าในแผนปฏิบัติการยิ่งใหญ่ที่มีชื่อว่า "Internet Plus"
แผนปฏิบัติการ "Internet Plus" ที่ได้รับการเปิดเผยในรายงานการปฏิบัติงานของรัฐบาล มีเป้าหมายที่จะผสมผสานเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตเข้ากับการผลิตสมัยใหม่
รายงานจากซีไอทีไอซี ซิเคียวริตี้ส์ระบุว่า อินเตอร์เน็ตจะเปลี่ยนโฉมห่วงโซ่อุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลในตลาดที่ 4-6 ล้านล้านหยวน และการสร้างเครือข่ายที่เชื่อมต่อรถยนต์จะมีขนาดใหญ่ที่สุดลำดับ 3 รองจากคอมพิวเตอร์และมือถือ สำนักข่าวซินหัวรายงาน