การช่วยเหลือครั้งนี้จะนับเป็นครั้งที่ 3 ที่กรีซได้รับจากบรรดาเจ้าหนี้ต่างชาติในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า กรีซจะเลี่ยงความเสี่ยงเกึ่ยวกับการล้มละลายที่กำลังจะเกิดขึ้นและการที่กรีซต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกยูโรโซน หรือ Grexit ซึ่งบรรดาเจ้าหน้าที่และนักวิเคราะห์จากทั้งสองฝ่ายระบุว่าจะทำให้เกิดหายนะในกรีซและสร้างความปั่นป่วนในยูโรโซน
ข้อตกลงที่ยากลำบากจะทำให้กรีซมีเวลามากขึ้นและมีโอกาสอีกครั้งที่จะแก้ไขข้อบกพร่องเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจและในการฟื้นฟูความมีเสถียรภาพและการขยายตัว ซึ่งจะดีกว่าการที่ไม่มีข้อตกลงใดๆเลย โดยจะเป็นหลักปฏิบัติทั่วไปในกรีซและทั่วทั้งยุโรป
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและนักวิเคราะห์ในด้านสื่อสารมวลชนของกรีซ แสดงความเห็นว่า ภาระหนักอย่างไม่เคยมีมาก่อนของแผนการช่วยเหลือรอบใหม่ในครั้งนี้และเงื่อนไขที่เข้มงวดเกี่ยวกับการรัดเข็มขัดต่อไป ซึ่งพรรครัฐบาลกรีซได้คัดค้านมาโดยตลอดจนกระทั่งเมื่อเร็วๆนี้ นับเป็นสัญญาณเตือนสำหรับกรีซและยูโรโซน
หลังจากการหารือที่กรุงบรัสเซลส์สิ้นสุดลง นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซิปราสของกรีซ จะเผชิญกับการเดิมพันข้อตกลงดังกล่าวอีกครั้งกับพรรคของเขา พรรคร่วมรัฐบาล สมาชิกสภานิติบัญญัติและประชาชนชาวกรีซ เพื่อเลี่ยงความแตกแยกภายในประเทศและความไร้เสถียรภาพทางการเมือง ตลอดจนเพื่อปฏิบัติตามเงื่อนไขของข้อตกลงดังกล่าวโดยไม่ต้องเสียเวลาอีกต่อไป ซึ่งจะช่วยปลดล็อคการระดมทุนในต่างประเทศที่มีความจำเป็น
อันตรายของความวุ่นวายทางการเมืองที่ยืดเยื้อที่อาจจะเกิดขึ้นในกรีซนับเป็นเรื่องที่น่าวิตกอย่างมากประการหนึ่งหลังการบรรลุข้อตกลง เนื่องจากภาวการณ์ดังกล่าวอาจจะส่งผลให้แผนการช่วยเหลือไม่มีความคืบหน้า
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์กล่าวเตือนถึง ผลพวงจากสงครามน้ำลายที่ดำเนินมาหลายสัปดาห์ระหว่างกรีซและกลุ่มพันธมิตร และกลุ่มอนุรักษ์นิยมของบรรดาเจ้าหนี้ที่นำโดยเยอรมนีในระหว่างการเจรจาที่ผ่านมา
“นี่เป็น 2 สิ่งอันตรายสำหรับกรีซ ซึ่งก็คือ ความรู้สึกต่อต้านกรีซที่หยั่งรากลึกในใจของชาติมหาอำนาจในยูโรโซน และความรู้สึกต่อต้านยุโรปที่เพิ่มมากขึ้นในกลุ่มประชาชนชาวกรีซ" นายอเล็กซิส ปาปาเคลาส บรรณาธิการอาวุโสของหนังสือพิมพ์ Kathimerini (Daily) ระบุในบทความเมื่อวานนี้
ขณะที่ยังไม่มีคำขาดชัดเจนจากทางเจ้าหนี้ในการยอมรับเงื่อนไขที่เข้มงวดหรือยอมเผชิญับภาวะผิดนัดชำระหนี้อย่างไร้ระเบียบและเหตุการณ์ Grexit นั้น นายกฯกรีซได้ทำการประนีประนอมที่ยากลำบากมาก นักวิเคราะห์เตือนว่า แม้การหารือได้เสร็จสิ้นลง แต่สงครามภายในยูโรโซนยังไม่จบ
ทางด้านนายคอสตาส ลาปาวิตซาส ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และสมาชิกรัฐสภาของพรรคไซริซา ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ได้แสดงความแน่ใจเกี่ยวกับแนวทางที่กรีซควรเลือก หลังจากการประกาศเงื่อนไขของข้อตกลง
เขาแถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ว่า ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับกรีซในระยะยาวจะเป็น Grexit แทนการทำ “ข้อตกลงที่เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติภายใต้การถูกแบล็คเมล์"
“ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่กรีซเผชิญนับแต่ปี 2553 คือ การอยู่ในยูโรโซนโดยมีพันธสัญญาและภาระหนี้ก้อนโต หรือการกลับไปใช้สกุลเงินดั้งเดิมของประเทศโดยมีแผนการหนุนเศรษฐกิจขยายตัว เราได้ลองทางเลือกแรกและเราก็ได้เห็นผลลัพธ์แล้ว ขณะที่ข้อตกลงฉบับใหม่จะนำประเทศไปสู่ทางตันในแบบเดียวกันด้วยเงื่อนไขที่เลวร้ายกว่า"
บทวิเคราะห์โดย Maria Spiliopoulou จากสำนักข่าวซินหัว