นายฉู หงปิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ด้านเศรษฐกิจจีนของเอชเอสบีซีระบุในบทความวิจัยว่า เศรษฐกิจจีนจะมีแนวโน้มฟื้นตัวเล็กน้อยในช่วงที่เหลือของปีนี้ หลังเศรษฐกิจจีนขยายตัวแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลก
"เรายังคงประเมินจีดีพีตลอดทั้งปีไว้ที่ 7.1%" นายฉูกล่าว ขณะที่เศรษฐกิจจีนในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ขยายตัวต่ำกว่า 7% อยู่เล็กน้อย
ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนเบื้องต้นเดือนส.ค. ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกันไคซิน อยู่ที่ระดับ 47.1 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2552
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นจีนที่ร่วงลงอย่างหนักและเงินหยวนที่อ่อนค่าลงยิ่งโหมกระแสความกังวลว่าทางเลือกด้านนโยบายของรัฐบาลใกล้หมดแล้ว
อย่างไรก็ดี นายฉูเชื่อว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของจีนยังคงมีเครื่องมืออย่างเพียงพอทั้งในด้านการเงินและการคลัง เพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
นักเศรษฐศาสตร์รายนี้คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% และจะลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ลง 2% ในช่วงครึ่งปีหลัง
ขณะเดียวกัน เขาเชื่อว่าจีนยังมีโอกาสดำเนินนโยบายการคลังในเชิงหนุนมากขึ้น โดยเขาระบุถึงตัวเลขเกินดุลงบประมาณการคลังในปัจจุบันของจีน การปฏิรูปด้านการระดมทุนของรัฐบาลท้องถิ่น ตลอดจนการเพิ่มทุนของธนาคารที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของทางการ
นายฉูระบุว่า ศักยภาพของนโยบายของจีนที่ยังไม่มีการนำมาใช้จะทำให้จีนเป็นประเทศมหาอำนาจที่สามารถพ้นจากภาวะเงินฝืด โดยที่ไม่ต้องลดค่าเงิน เพื่อสร้างความได้เปรียบด้านการค้าเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน สำนักข่าวซินหัวรายงาน