นักวิเคราะห์มองว่า การที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนผู้สมัครลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกันออกตัวสนับสนุนการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ จะช่วยเรียกเสียงสนับสนุนจากฐานเสียงของทรัมป์ แต่อาจส่งผลกระทบต่อการพยายามที่จะดึงคะแนนเสียงจากกลุ่มผู้มีสิทธิ์ออกเสียงที่ไม่ได้ฝักใฝ่พรรคใดพรรคหนึ่ง
ในช่วงก่อนการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ของสหรัฐ ทรัมป์ได้ประกาศสนับสนุนผู้ที่ต้องการให้อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป โดยกล่าวว่า ผลการลงประชามติได้แสดงให้เห็นถึงการลุกขึ้นสู้กับพวกนักการเมืองทรงอิทธิพลของเหล่ามวลชน
ทั้งนี้ การออกมาแสดงท่าทีของทรัมป์ถือเป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสเนื่องจากสถานการณ์ในขณะนี้ถือได้ว่ากำลังเข้าทางของทรัมป์ที่หาเสียงด้วยการโจมตีนักการเมืองระดับสูงของสหรัฐว่ากำลังขายประเทศของตนเองเละเอาเปรียบประชาชนตาดำๆ ซึ่งสอดคล้องกับแนวความคิดที่ว่า สหภาพยุโรปเอาเปรียบอังกฤษ
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าท่าทีดังกล่าวจะช่วยให้ทรัมป์ได้รับแรงสนับสนุนจากฐานเสียงเดิมเพิ่มขึ้น ไม่ว่าตลาดจะร่วงลงอีกรอบหรือไม่ก็ตาม สิ่งที่ทรัมป์อาจต้องแลกคือคะแนนเสียงจากกลุ่มผู้มีมีสิทธิ์ออกเสียงที่ไม่ได้ชื่นชอบพรรคใดพรรคหนึ่งเนื่องจากบุคคลเหล่านี้ต้องการผู้นำที่สามารถคาดเดาได้และนำมาซึ่งเสถียรภาพและความมั่นคง
ดาร์เรลล์ เวสต์ รองประธานและผู้อำนวยการประจำภาควิชาการปกครอง สถาบันบรูกกิงส์ กล่าวว่า ทรัมป์ออกมาสนับสนุนให้อังกฤษออกจากสหภาพยุโรปเพื่อเอาใจฐานเสียงที่ชื่นชอบในนโยบายประชานิยมของทรัมป์
เวสต์กล่าวว่า"กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์หลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศส่งผลเสียต่อแรงงานทั่วไป และการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษนั้นจะทำให้ผู้คนในประเทศมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางเศรษฐกิจของประเทศมากขึ้น"
และถึงแม้ว่าขณะนี้ตลาดหุ้นจะเข้าสู่ช่วงผันผวนและตกต่ำเป็นอย่างมาก กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ยังคงมองเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเรื่องดี โดยกล่าวว่าประเทศแต่ละประเทศควรได้รับอิสระในการกำหนดเขตแดนและทำประโยชน์โดยยึดคนในประเทศเป็นสำคัญ
"แนวคิดดังกล่าวนี้สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจของทรัมป์ เพราะกลุ่มที่สนับสนุนทรัมป์ต่างมองว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะสร้างความเสียหายเพียงระยะสั้นและจะส่งผลดีในระยะยาว"เวสต์กล่าว
นอกจากนี้ เวสต์ยังมองว่า แนวคิดของทรัมป์เกี่ยวกับปัญหาผู้อพยพเป็นภาพสะท้อนแนวคิดส่วนใหญ่ที่ผลักดันให้อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป ทั้งนี้เป็นเพราะผู้อพยพจากยุโรปตะวันออกจำนวนมากได้อาศัยการอพยพอย่างถูกกฏหมายของแรงงานภายในประเทศสมาชิก เพื่อย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศต่างๆในสหราชอาณาจักรโดยเฉพาะอังกฤษ ซึ่งส่งผลให้ภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมของอังกฤษเปลี่ยนไปจากเดิม
อย่างไรก็ตาม การที่ทรัมป์ออกมาสนับสนุนการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษอย่างชัดเจนอาจส่งผลกระทบต่อการดึงคะแนนเสียงจากกลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ไม่ได้ชื่นชอบพรรคใดเป็นพิเศษซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในศึกเลือกตั้งครั้งนี้
จูเลียน เซลิเซอร์ ศาสตราจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์และกิจการสาธารณะ มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน กล่าวกับซินหัวว่า "การออกมาแสดงท่าทีเช่นนี้อาจทำให้ชาวอเมริกันต้องคิดให้ถี่ถ้วนมากขึ้นอีกครั้งก่อนจะกาเลือกให้ทรัมป์ที่มีบุคลิกหุนหันพลันแล่นและขาดซึ่งประสบการณ์ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ"
ด้านนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนผู้สมัครลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐพรรคเดโมแครตได้อาศัยโอกาสนี้ออกมาโจมตีทรัมป์เช่นกัน โดยกล่าวว่า "ประเทศเราต้องการผู้นำที่เข้าใจสถานการณ์บ้านเมืองและรู้จักวางตัว ไม่คุยโวโอ้อวดในช่วงที่กำลังเกิดวิกฤต เพราะจะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก รวมทั้งต้องรู้จักยึดผลประโยชน์ของชาวอเมริกันเป็นสำคัญไม่ใช่ประโยชน์ของธุรกิจส่วนตัว"
แมทธิว รัสลิง จากสำนักข่าวซินหัวรายงาน