ความน่าเชื่อถือระดับ AAA ของออสเตรเลียนั้นตกอยู่ในภาวะเสี่ยง เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ออสเตรเลียอาจจะต้องจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคการเมืองที่มีคะแนนเสียงไม่ถึงครึ่งหนึ่งในรัฐสภา หรือที่เรียกว่า Hung Parliament ภายหลังผลการเลือกตั้งทั่วไปยังคลุมเครือ
ออสเตรเลียกลับมาเป็นหนึ่งในประเทศพัฒนาแล้วที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์ไม่แน่นอนทางการเมืองอีกครั้ง เนื่องจากมีประชาชนที่ไม่ไปใช้สิทธิ์เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะ Hung Paliament หรือการจัดตั้งรัฐบาลด้วยเสียงส่วนน้อย แม้ว่าผลการเลือกตั้งจะยังไม่เป็นที่แน่ชัด จนกว่าจะมีการนับคะแนนเสียงอีกครั้งในวันอังคารนี้
ประเด็นที่สร้างแรงกดดันมากที่สุดสำหรับทั้งสองพรรค คือ ความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องในวุฒิสภา เนื่องจากพรรคฝ่ายขวา วัน เนชั่น ที่นำโดยนางพอลลีน แฮนสัน สามารถกวาดที่นั่งในสภาได้เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ในขณะที่พรรคของนิค ซีโนโฟน คว้าที่นั่งในสภาไปอย่างน้อย 3 ที่
แองกัส นิโคลสัน นักวิเคราะห์จาก IG Markets กล่าวว่า "มีความเป็นไปได้ที่หน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือจะปรับลดระดับความน่าเชื่อถือของออสเตรเลีย อันเนื่องมาจากผลการเลือกตั้ง รวมถึงปรับลดความสามารถ ในขณะที่ความต้องการสำหรับรัฐบาลที่จะบรรลุการปฏิรูปจะลดลงในช่วงสถานการณ์ดังกล่าว
เมื่อเดือนเม.ย. มารี ไดรอน รองประธานระดับอาวุโสของ มูดีส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ได้ออกมาเตือนว่า การที่รัฐบาลออสเตรเลียสามารถควบคุมการใช้จ่ายของรัฐบาลได้นั้นไม่เพียงพอที่จะรักษาความน่าเชื่อถือระดับ AAA ไว้ได้ พร้อมค้านว่า มาตรการเพิ่มรายได้นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการควบคุมการเติบโตของหนี้ที่จะนำไปสู่ความเชื่อมั่นเชิงลบ
รองประธานมูดีส์ กล่าวว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองในระยะสั้นส่งผลต่ออันดับความน่าเชื่อถือของออสเตรเลีย เนื่องจากทิศทางเศรษฐกิจจะมั่นคงได้ด้วยสภาพแวดล้อมทางการเงินภายนอกที่เอื้ออำนวย
พร้อมกล่าวว่า "เมื่อมองไปยังอนาคต แนวโน้มความน่าเชื่อถือของออสเตรเลียจะถูกตัดสินจากปัจจัยที่ว่า เป้าหมายทางการเงินถูกนำมาปรับใช้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ เงื่อนไขทางการเงินภายนอกยังมีประโยชน์หรือไม่ และการพัฒนาตลาดอสังหาริมทรัพย์ส่งผลต่อการเติบโตในประเทศและเงื่อนไขทางการเงินอย่างไร"
อย่างไรก็ตาม สถาบันจัดอันดับสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ยังไม่ออกมาเน้นย้ำความน่าเชื่อถือระดับ AAA ของออสเตรเลีย ภายหลังตรวจสอบรายละเอียดงบประมาณไปเมื่อวันที่ 2 พ.ค.
ไมค์ เบียร์ด นายกรัฐมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW) กล่าวว่า "ผมค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับความคิดเห็นของหน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือ" พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลออสเตรเลียให้ความสำคัญกับการรักษาเครดิตระดับ AAA ไว้เป็นอันดับแรกๆ
หนี้ของออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 11.6% แตะ 35.1% ต่อ GDP ในช่วงระยะเวลา 10 ปีนับจนถึงปี 2558 ซึ่งมูดีส์จะปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของหนี้เป็น 38% ต่อ GDP ภายในปีงบประมาณ 2561
แม้ว่า การคาดการณ์ดังกล่าวจะเป็นค่ากลางของเศรษฐกิจที่มีความน่าเชื่อถือระดับ AAA อย่างออสเตรเลีย แต่หนี้ที่สูงขึ้นจะปรับลดระดับความน่าเชื่อถือให้น้อยลง
โดย แมต เบอร์กีส สำนักข่าวซินหัวรายงาน