นักวิเคราะห์จากสถาบันต่างๆได้ออกมาแสดงมุมมองว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมอีกหรือไม่ในวันข้างหน้า หลังจากที่การประชุมเมื่อวานนี้ BOJ ได้ปรับกลยุทธ์ทางการเงินด้วยการประกาศให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีเป็นเป้าหมายใหม่ด้านนโยบาย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและหนุนอัตราเงินเฟ้อ
นายทาเคชิ มินามิ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่สถาบันวิจัยโนรินชูคิน กล่าวว่า BOJ อาจจะประกาศดอกเบี้ยติดลบต่ำลงอีกภายในสิ้นปี เนื่องจากนโยบาย "ควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield Curve Control)" ซึ่ง BOJ ประกาศใช้ในการประชุมล่าสุดเมื่อวานนั้น จะช่วยให้กลไกตลาดกลับสู่ภาวะปกติ
ด้านบาร์เคลย์ แคปิตอล เจแปน คาดว่า BOJ จะประกาศลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ -0.3% จากระดับ -0.1% ในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.
นักวิเคราะห์มองว่า นโยบาย Yield Curve Control มีเป้าหมายที่จะลดผลกระทบจากนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ ซึ่งจะปูทางไปสู่การดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยที่เป็นวงกว้างมากขึ้น
ขณะที่นักวิเคราะห์อีกจำนวนหนึ่งคาดว่า BOJ จะคงนโยบายการเงินในระดับปัจจุบันต่อไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากนโยบาย Yield Curve Control จะช่วยให้ BOJ สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เหนือความคาดหมายในแนวทางที่ยืดหยุ่น โดยไม่ต้องการพึ่งพาการซื้อสินทรัพย์มากเกินไป
สำหรับในการประชุมครั้งล่าสุดซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวานนี้ BOJ ได้ตัดสินใจดำเนินนโยบายใหม่ ด้วยการกำหนดให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีเป็นเป้าหมายใหม่ด้านนโยบาย แทนการซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่ที่ดำเนินการตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและผลักดันเงินเฟ้อสู่ระดับ 2%
นอกจากนี้ ที่ประชุม BOJ ยังมีมติคงอัตราดอกเบี้ยติดลบ 0.1% พร้อมส่งสัญญาณยืดหยุ่นในการใช้นโยบายการเงิน และยังระบุด้วยว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่ได้อยู่ในภาวะเงินฝืดอีกต่อไป
การประกาศนโยบายใหม่นี้มีขึ้นหลังจากเกิดกระแสวิตกกังวลเป็นวงกว้างว่า โครงการซื้อพันธบัตรขนานใหญ่ของ BOJ เริ่มที่จะกระทบตลาด ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลพวงจากนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของภาคธนาคาร สำนักข่าวเกียวโดรายงาน