นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ให้คำมั่นที่จะกวาดล้างกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ให้สิ้นซาก หลังจากเกิดเหตุคนร้ายขับรถบรรทุกพุ่งชนกลุ่มคนในตลาดแห่งหนึ่ง ณ กรุงเบอร์ลิน ซึ่งกำลังเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย และบาดเจ็บ 50 ราย ทว่า ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตถึงความเป็นไปได้ที่ว่าท่าทีของนายทรัมป์จะยิ่งกระตุ้นให้เหตุก่อการร้ายบานปลายขึ้นไปอีก
ทั้งนี้ แม้เหตุสลดใจที่เกิดขึ้นในกรุงเบอร์ลินจะยังคงอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวน แต่นายทรัมป์ปักใจเชื่อว่ากลุ่ม IS อยู่เบื้องหลังการโจมตีดังกล่าว
"IS และกลุ่มก่อการร้ายอิสลามอื่น ๆ มุ่งกระทำ ‘ญิฮาด’ โดยการเข่นฆ่าชาวคริสต์ในพื้นที่ต่าง ๆ บรรดาผู้ก่อการร้าย เครือข่ายในระดับภูมิภาค รวมถึงทั่วโลกจะต้องถูกกำจัดให้หมดไปจากแผ่นดิน" นายทรัมป์กล่าว
ด้านนายดาร์เรล เวสต์ นักวิเคราะห์อาวุโสจากสถาบัน Brookings Institution แสดงความเห็นว่า นายทรัมป์มุ่งต่อกรกับกลุ่ม IS อย่างรุนแรงเสียจนมิได้คำนึงถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน ต่างจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่หลีกเลี่ยงการกระทำดังกล่าว
"หากกลุ่มมุสลิมเชื่อว่าสหรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องในสงครามอิสลาม เหตุก่อการร้ายก็จะยิ่งลุกลามไปทั่วโลก นายทรัมป์ควรจะไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนว่าการกระทำของเขานั้นยั่วยุให้เกิดปัญหาบานปลายหรือไม่" นายเวสต์กล่าว
ส่วนนายแดน มาฮาฟฟี นักวิเคราะห์จากศูนย์การศึกษาด้านประธานาธิบดีและรัฐสภาของสหรัฐ ตั้งข้อสังเกตว่า นายทรัมป์จะเพิ่มความถี่ในการโจมตีทางอากาศ, ผ่อนคลายข้อบังคับต่างๆ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาสั่งการทำลายกลุ่มเป้าหมายได้เร็วขึ้น รวมถึงเน้นย้ำความสำคัญของการมีชัยเหนือกลุ่ม IS ในซีเรียด้วย
บทวิเคราะห์โดย แมทธิว รัสลิง สำนักข่าวซินหัวรายงาน