ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งได้ไม่ทันไร ทำเนียบขาวก็เปิดศึกกับผู้สื่อข่าวเสียแล้ว เหล่าผู้เชี่ยวชาญมองว่า กระแสแห่งการเป็นปฏิปักษ์กันนี้จะยังคงเกิดขึ้นต่อไป หลังจากที่ทรัมป์ประกาศในวันแรกของการเข้ารับตำแหน่งเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ว่า จะเปิดสงครามกับสื่อ และจะต่อกรกับสื่อจนถึงที่สุด
บรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างลงความเห็นว่า หากท่าทีในสัปดาห์แรกของการดำรงตำแหน่ง ปธน. เป็นตัวชี้วัดการดำเนินงานในอนาคตของนายทรัมป์แล้วล่ะก็ มีความเป็นไปได้ว่าความเกลียดชังจะถาโถมเข้าสู่รัฐบาลสหรัฐอย่างต่อเนื่อง
แดน มาฮาฟฟี นักวิเคราะห์จากศูนย์ศึกษาวิจัยประธานาธิบดีและรัฐสภาเปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์และสำนักข่าวในวอชิงตัน จะมีความขัดแย้งมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากองค์กรและผู้ที่สนับสนุนนายทรัมป์ล้วนมีความกังขากับวิธีการที่สำนักข่าวได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับนายทรัมป์มานานแล้ว
ด้าน ฟอร์ด โอคอนเนลล์ นักวิเคราะห์ทางการเมืองและผู้นิยมในพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า ดูเหมือนสงครามระหว่าง ปธน. ทรัมป์ และสื่อสหรัฐจะยืดเยื้อต่อเนื่องไปตลอด 4 ปี ที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่ง "คุณต้องเข้าใจว่าสื่อกระแสหลักนั้นต่อต้านทรัมป์โดยสิ้นเชิง และไม่เข้าใจว่าทำไมคนอเมริกันถึงลงคะแนนให้เขา สื่อไม่รับฟังข้อแก้ตัวใด ๆ และรอที่จะสับเขาเป็นชิ้น ๆ หากทรัมป์ไม่สามารถสร้างผลงานใด ๆ ให้เป็นที่ประจักษ์ได้ภายใน 100 วันของการดำรงตำแหน่ง ปธน." โอคอนเนลล์เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัว
สำหรับผู้ช่วยศาสตราจารย์ คริสโตเฟอร์ กัลดอเอริ จากวิทยาลัยเซนต์ แอนเซล์ม รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ก็เชื่อในแบบเดียวกันว่าความบาดหมางระหว่างนายทรัมป์ และสื่อ จะยังคงยืดเยื้อต่อไป โดยยกเหตุผลที่ว่า สื่อบิดเบือนคำกล่าวอ้างของนายฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาว ระหว่างการแถลงข่าวครั้งแรกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนายสไปเซอร์ยืนยันว่ามีประชาชนมาร่วมงานในวันเข้ารับตำแหน่งของ ปธน. ทรัมป์ มากเป็นประวัติการณ์ ทว่ามีสื่อจำนวนหนึ่งนำภาพถ่ายในวันเข้ารับตำแหน่งของนายโอบามาเมื่อปี 2551 มาเปรียบเทียบเพื่อแสดงให้เห็นว่าคำกล่าวของโฆษกทำเนียบขาวคนล่าสุดนั้นขัดกับความเป็นจริง
ส่วน ดาร์เรลล์ เวสต์ รองประธานและผู้อำนวยการฝ่ายศึกษาวิธีการปกครองประจำสถาบัน Brookings Institution กล่าวว่า ความสัมพันธ์ของทรัมป์และผู้สื่อข่าวหลายรายยังคงเป็นไปท่ามกลางความขัดแย้งมาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งและยิ่งเลวร้ายลงเรื่อย ๆ "ทรัมป์มักโจมตีนักข่าวและกล่าวหาว่าพวกเขาไร้จรรยาบรรณ จึงไม่แปลกที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายจะย่ำแย่แบบนี้"
แมทธิว รัสลิง สำนักข่าวซินหัวรายงาน