ในช่วงที่สื่อมวลชนในสหรัฐกำลังเดินหน้าแลกหมัดกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อย่างชนิดไม่ลดราวาศอกต่อกันนั้น แต่ในอีกด้านหนึ่ง นักลงทุนในตลาดทุนและตลาดเงินกลับเปี่ยมไปด้วยความหวังกับคำมั่นสัญญาของปธน.ทรัมป์ ที่จะดำเนินการปรับลดภาษีและผ่อนคลายกฎเหล็กต่างๆในสมัยรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งถูกมองว่าเป็นตัวการสำคัญที่ฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ
ประธานาธิบดีทรัมป์ได้สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลกในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ด้วยการเอาชนะนางฮิลลารี คลินตันจากพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งชิงเก้าอี้ประมุขทำเนียบขาว ชนิดหักปากกาเซียนและโพลล์สำรวจเกือบทุกสำนัก
นับตั้งแต่ที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง เขาได้เปิดศึกทำสงครามน้ำลายกับสื่อในประเทศมาโดยตลอด พร้อมกับตราหน้าสื่อว่าเป็น "ศัตรูของประชาชนในประเทศ" และกุ "ข่าวปลอม" ขึ้นเพื่อโจมตีเขา
อย่างไรก็ตาม นายฟอร์ด โอคอนเนลล์ นักกลยุทธ์พรรครีพับลิกัน ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า "ดูเหมือนตลาดจะมองว่า มุมมองของปธน.ทรัมป์นั้น ถูกต้อง"
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินได้ตอบโต้ผู้ที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายของรัฐบาลใหม่สหรัฐ โดยระบุว่า พวกเขาควรหันมองไปที่ตลาดมากกว่า ซึ่งในขณะนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่ต่างมีมุมมองที่เป็นบวกต่อคำมั่นสัญญาของทรัมป์ที่จะให้ผ่อนคลายกฎระเบียบที่เข้มงวดในด้านการเงิน ซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่ในสมัยของอดีตประธานาธิบดีโอบามา
ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์บางคนมองว่า กฎระเบียบที่เข้มงวดเหล่านั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
ทั้งนี้ ดัชนี S&P 500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้ทะยานขึ้นกว่า 10% นับตั้งแต่ที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า แนวโน้มภาวะตลาดหุ้นสหรัฐอยู่ในทิศทางที่สดใส และเป็นการทะยานขึ้นขานรับประธานาธิบดีคนใหม่ที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับประธานาธิบดีคนก่อนๆ
ก่อนหน้านี้ ซีเอ็นบีซี ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ที่รายงานข่าวการเงินและการลงทุนเป็นหลัก ระบุว่า การลงทุนในสหรัฐมีการขยายตัวขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งมีเม็ดเงินไหลทะลักเข้ารวมมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ต้นปี 2560 เป็นต้นมา
ขณะที่นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีเมื่อเร็วๆนี้ว่า "ในปัจจุบัน ตลาดมีความเชื่อมั่นในรัฐบาลของปธน.ทรัมป์เป็นอย่างมาก และความต้องการในการลงทุนในสหรัฐก็มีเพิ่มขึ้นเช่นกัน"
ขุนคลังสหรัฐกล่าวเสริมด้วยว่า ปฏิกิริยาของตลาดหุ้นสหรัฐในปัจจุบัน เป็นสัญญาณสะท้อนมุมมองบวกที่ว่า ปธน.ทรัมป์จะทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้เป็นอย่างดีในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่บรรดาผู้สนับสนุนได้เทคะแนนเสียงให้กับเขาในวันเลือกตั้งประธานาธิบดี
นอกจากนี้ ตลาดยังมีความหวังกับการที่รัฐบาลของทรัมป์จะดำเนินการปรับลดภาษี และยกเลิกกฎระเบียบที่เข้มงวดต่างๆในสมัยรัฐบาลของโอบามา โดยผู้เชี่ยวชาญมองว่า รัฐบาลของทรัมป์อาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งในการบังคับใช้มาตรการใหม่ๆ
บทวิเคราะห์โดย แมทธิว รัสลิง สำนักข่าวซินหัวรายงาน