นับเป็นการเดิมพันอันสูงยิ่งของพรรครีพับลิกัน (GOP) ซึ่งมีอำนาจควบคุมสภาคองเกรสและทำเนียบขาวอยู่ในขณะนี้ ว่าจะสามารถยกเลิกกฎหมาย "โอบามาแคร์" หรือ Affordable Care Act (ACA) และแทนที่ด้วยกฏหมายฉบับใหม่ "อเมริกัน เฮลธ์แคร์" (American Healthcare Act) ได้สำเร็จหรือไม่ โดยบรรดาผู้เชี่ยชาญต่างออกมาแสดงทรรศนะว่า หากผลการดำเนินการดังกล่าวของพรรครีพับลิกันล้มเหลว นั่นหมายถึงปัญหาใหญ่ที่จะส่งผลกระทบต่อตัวพรรคเอง
ฟอร์ด โอคอนเนลล์ นักยุทธศาสตร์ในสังกัดพรรครีพับลิกัน เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า "ภารกิจการยกเลิกโอบามาแคร์จะเป็นสิ่งที่ชี้เป็นชี้ตายคณะบริหารงานของนายทรัมป์ ซึ่งหากพวกเขาไม่สามารถดันให้กฏหมายอเมริกัน เฮลธ์แคร์ผ่านความเห็นชอบได้ การที่กฏหมายฉบับอื่น ๆ จะได้รับการอนุมัติก็เป็นไปได้ยากขึ้น โดยเฉพาะกฏหมายอเมริกัน เฮลธ์แคร์นี้ที่ทางพรรคได้หาเสียงไว้ว่าจะมีระยะเวลาบังคับใช้ 7 ปี เพราะฉะนั้นพวกเขาจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อแสดงให้เห็นว่าสามารถเดินก้าวข้ามสถานะพรรคฝ่ายค้าน มาสู่พรรครัฐบาลได้อย่างเต็มภาคภูมิ"
นายโอคอนเนลล์ยังเสริมอีกด้วยว่า หากคณะบริหารของนายทรัมป์สามารถผ่านกฏหมายสำคัญ 2 -3 ฉบับได้ก่อนการเลือกตั้งรัฐสภากลางสมัยในปี 2561 โอกาสที่นายทรัมป์จะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่สองก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
อันที่จริงนั้น กฏหมายอเมริกัน เฮลธ์แคร์ของนายทรัมป์ถูกพรรครีพับลิกันโต้แย้งและวิจารณ์ว่าเป็นโอบามาแคร์ฉบับที่แย่กว่าเดิม
ดาร์เรลล์ เวสต์ รองประธานและผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาเพื่อการปกครอง สังกัดสถาบัน Brookings Institution เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า กฏหมายอเมริกัน เฮลธ์แคร์ จะเป็นบททดสอบครั้งสำคัญของพรรครีพัลลิกัน
"พวกเขามีเสียงข้างมากอยู่ทั้งในสภาคองเกรส และทำเนียบขาว ซึ่งหากกฏหมายอเมริกัน เฮลธ์แคร์ ที่เป็นตัวชูโรงเมื่อครั้งหาเสียงนั้น ไม่ผ่านความเห็นชอบ พรรครีพับลิกันก็ต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้" เวสต์กล่าว
นอกจากนี้เขายังแสดงความเห็นเช่นเดียวกับนายโอคอนเนลล์ที่ว่า หากพรรครีพับลิกันไม่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากให้อนุมัติกฏหมายฉบับดังกล่าวได้ การได้รับความเห็นชอบในประเด็นอื่นๆ ก็ยิ่งเป็นไปได้ยาก และการสูญเสียในครั้งนี้จะทำลายฐานเสียงของพรรค รวมถึงการเลือกตั้งรัฐสภากลางสมัยในปีหน้าด้วย
"มีแรงกดดันเกิดขึ้นภายในพรรครีพับลิกัน เนื่องจากมีความเห็นแตกเป็น 2 ฝั่ง ทั้งที่ต้องการกำจัดกฎหมายโอบามาแคร์ทิ้ง และฝ่ายที่ต้องการดำรงไว้ซึ่งผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง ความตึงเครียดดังกล่าวนี้เองที่ก่อให้เกิดกฏหมายอเมริกัน เฮลธ์แคร์ ขึ้น
ทางด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ คริสโตเฟอร์ กัลดอเอริ จากวิทยาลัยเซนต์ แอนเซล์ม รัฐนิวแฮมป์เชียร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า นับตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา พรรครีพับลิกันแบ่งฝักฝ่ายเพื่อกำจัดกฎหมายโอบามาแคร์ทิ้ง โดยได้ลงคะแนนถอดถอนกฏหมายฉบับดังกล่าวหลายครั้งในช่วงที่โอบามายังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และขณะนี้สมาชิกของรีพับลิกันในสภาคองเกรสจำนวนมากก็ลงคะแนนต่อต้านกฎหมายโอบามาแคร์ และหลังจากการเลือกตั้งในปีที่แล้ว นายทรัมป์ก็เลือกที่จะกำจัดกฏหมายฉบับนี้ทิ้งเป็นสิ่งแรก
"หากพวกเขาทำไม่สำเร็จ ก็ไม่ต่างอะไรจากการทำลายพรรคตัวเอง" นายกัลดอเอริ ทิ้งท้าย
บทวิเคราะห์โดย แมทธิว รัสลิง สำนักข่าวซินหัวรายงาน