Analysis: ผู้เชี่ยวชาญวิพากษ์เลือกตั้งเนเธอร์แลนด์ ฟันธงจัดตั้งรัฐบาลผสมเหงื่อตก

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 14, 2017 14:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เหล่าผู้เชี่ยวชาญกล่าวกับสำนักข่าวซินหัวก่อนหน้าที่การเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์จะเปิดฉากขึ้นในวันพรุ่งนี้ว่า เนเธอร์แลนด์มีแนวโน้มว่า จะต้องเผชิญกับความยากลำบากในการจัดตั้งรัฐบาล โดยปราศจากพรรคขวาดจัดที่ชูนโยบายประชานิยมอย่างพรรค Party for Freedom (PVV)

การเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาของเนเธอร์แลนด์ในวันพุธที่จะถึงนี้ มีพรรคการเมืองลงสนามเลือกตั้งทั้งสิ้น 28 พรรค เพื่อกวาดที่นั่งในสภาล่างจำนวน 150 ที่นั่ง

ผลการสำรวจความคิดเห็นล่าสุดโดย Peilingwijzer ชี้ให้เห็นว่า พรรค People's Party for Freedom and Democracy (VVD) ของนายมาร์ค รุตเต นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ จะสามารถกวาดที่นั่งไปได้ 24-28 ที่นั่ง ส่วนพรรค PVV จะสามารถกวาดที่นั่งไปได้ 20-24 ที่นั่ง รองลงมาคือ พรรค Christian Democrats (CDA) ที่คาดว่า จะได้ที่นั่งไป 18-20 ที่นั่ง ส่วนพรรค Democrats (D66) คาดว่า จะได้ที่นั่งไป 17-19 ที่นั่ง

โอกาสที่พรรค VVD ของนายรุตเต จะหวนกลับเข้ามาเป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดนั้นมีอยู่มาก แม้ว่าพรรคอาจจะกวาดที่นั่งได้น้อยลงจากจำนวนสมาชิกสภาล่างที่มีอยู่ 40 คน

รุตเต กล่าวกับผู้สื่อข่าวในระหว่างการหาเสียงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ผมได้ต่อสู้ฝ่าฟันอย่างหนักเพื่อที่จะได้ชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ ตอนนี้จากผลโพลล์เรามีคะแนนแซงหน้า แต่ผมก็ยังคิดว่า เราน่าจะกวาดที่นั่งได้มากกว่านี้

โคเอน วอสเซน นักประวัติศาสตร์ด้านการเมือง และคาร์ลา บาเลน ผู้อำนวยการศูนย์ประวัติศาสตร์รัฐสภา มองว่า รัฐบาลผสมระหว่างพรรค VVD, CDA, D66 และพรรคอื่นๆอีกหนึ่งหรือสองพรรคนั้น มีโอกาสที่จะเป็นไปได้มากที่สุด นับตั้งแต่ที่พรรค PVV ของนายเกิร์ต ไวล์เดอร์ส ถูกโดดเดี่ยวจากพรรคการเมืองอื่นๆ

นายรุตเตเคยกล่าวกับสื่อก่อนหน้านี้ว่า โอกาสที่จะร่วมมือกันกับพรรค PVV นั้นมีแค่ศูนย์ พรรคการเมืองอีก 6 พรรค ซึ่งอาจจะกวาดที่นั่งได้กว่า 10 ที่นั่งนั้น ไม่สนใจที่จะร่วมวงกับพรรคที่แอนตี้ชาวมุสลิมและยุโรปพรรคนี้

นายวอสเซน กล่าวว่า ผมไม่คิดว่า พรรคการเมืองเหล่านี้จะเปลี่ยนใจ เพราะต่างไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของพรรค PVV ซึ่งถูกมองว่าไม่มีความน่าเชื่อถือ

อย่างไรก็ดี การที่จะมองข้ามพรรค PVV นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ในขณะที่พรรคขวาจัดพรรคนี้ที่มีนโยบายต้านมุสลิมกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น นายไวล์เดอร์สเดินหน้าหาเสียงในช่วงกลางเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ด้วยการแสดงความเห็นที่อื้อฉาวเกี่ยวกับผู้อพยพชาวโมรอกโก พร้อมกับให้คำมั่นว่า จะปิดมัสยิด และดึงเนเธอร์แลนด์ออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป ภายใต้คำขวัญที่ว่า "make the Netherlands ours again"

แม้ว่า การแสดงความเห็นของนายไวล์เดอร์สจะจุดกระแสความขัดแย้งที่ร้อนแรงทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่เขาก็ยังคงมีคะแนนนิยมในผลการสำรวจล่าสุดก่อนหน้าที่การเลือกตั้งจะเปิดฉากขึ้น

ผลการสำรวจล่าสุดชี้ว่า พรรคการเมืองที่มีสมาชิก 1 คน จะดึงคะแนนเสียงได้ 15.7% จากผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงของเนเธอร์แลนด์จำนวน 12.7 ล้านคน ส่งผลให้เป็นพรรคการเมืองที่มีขนาดเล็กที่สุดนี้เป็นพรรคการเมืองรายใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ

พรรค PVV ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะคว้าชัยชนะอาจจะเป็นมาตรวัดของการแพร่กระจายของพลังแห่งลัทธิประชานิยมในยุโรป การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่จะเปิดฉากขึ้นในเดือนหน้า นางมารีน เลเปน จากพรรคขวาจัด มีคะแนนแซงหน้า และในเดือนก.ย. พรรค Alternative for Germany ก็มีแนวโน้มว่า จะกวาดที่นั่งได้เป็นครั้งแรกในศึกเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา แต่ก็เป็นเรื่องที่ฟันธงได้เช่นกันว่า พรรค PVV จะไม่มีโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาล เมื่อดูจากบรรยากาศทางการเมือง

นายวอสเซนกล่าวต่อไปว่า หากพรรค PVV ได้เป็นพรรคที่สามารถกวาดที่นั่งได้มากที่สุด การเจรจากับพรรคการเมืองอื่นๆคงลำบาก เพราะคงจะไม่มีพรรคใดให้ความร่วมมือด้วย ในขณะเดียวกัน นายวอสเซนไม่เชื่อว่า จะเกิดการจลาจลหรือประท้วงขึ้นจากกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคตามที่นายไวล์เดอร์สอ้าง หากพรรค PVV ถูกมองข้ามในการเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่

นายวอสเซน กล่าวว่า พรรคการเมืองแบบวันแมนเช่นพรรค PVV นี้ ไม่ได้บริหารจัดการในรูปแบบที่จะทำให้เกิดการจลาจล หากไม่นับรวมพรรค PVV แล้ว คำถามที่สำคัญที่สุดที่ยังคงเหลืออยู่ก็คือ พรรคฝ่ายซ้ายที่เหลือ 3 พรรค ได้แก่ GroenLinks, PvdA และ SP อาจจะจับมือกับพรรค VVD, CDA และ D66 เพื่อจัดตั้งรัฐบาล

ด้านแวน บาเลน กล่าวว่า รัฐบาลแบบเอียงซ้ายนั้นใช่ว่าจะเกิดขึ้นจริงได้ พรรค CDA ไม่ต้องการเป็นพรรคฝ่ายขวาเพียงพรรคเดียวที่นั่งอยู่ในคณะรัฐมนตรีแบบซ้ายจัด

นอกจากพรรคขวาดจัดที่ได้รับความนิยมนี้ แวน บาเลน มองว่า การเลือกตั้งปีนี้ซึ่งมีการหาเสียงหลากหลายรูปแบบ และความสนใจที่แตกต่างกันในประเด็นการรวมตัว การอพยพเข้าเมือง การศึกษา ความปลอดภัย เฮลท์แคร์ และสหภาพยุโรป ทำให้การเลือกตั้งปีนี้แตกต่างไปจากการเลือกตั้งเมื่อปี 25551 ที่ผู้คนให้ความสนใจแต่กับการผลักดันประเทศให้หลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกัน ก็ไม่มีประเด็นใดที่โดดเด่นไปกว่ากัน

แวน บาเลน กล่าวว่า การหาเสียงดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาลผสม ว่า ใครจะมาเป็นรัฐบาล ใครจะขึ้นมาเป็นนายกฯ

การจัดตั้งรัฐบาลผสมยังเป็นเรื่องของความเชื่อมั่นที่มีซึ่งกันและกันของพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้อง กระบวนการจัดตั้งรัฐบาลอาจจะใช้เวลาประมณ 2-3 เดือน โดยรัฐบาลชุดปัจจุบันนั้นก็ใช้เวลาในการจัดตั้ง 54 วัน และช่วงเวลาที่นานที่สุดสำหรับการจัดตั้งรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็คือ 208 วัน

แม้ว่า เค้าโครงของรัฐบาลชุดใหม่จะมีพรรค VVD, CDA, D66 และพรรคการเมืองอีกหนึ่งหรือสองพรรคนั้น จะเป็นภาพที่ชัดเจน แต่การจัดตั้งรัฐบาลก็ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย

แวน บาเลน กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ลำบากกว่าครั้งที่แล้ว และยังมีความซับซ้อน พรรคการเมืองทั้งหมดต้องการเป็นรัฐบาล ซึ่งจะทำให้การเจรจาต่อรองเป็นเรื่องยาก และอาจจะต้องใช้เวลาเลยทีเดียว

โดย เจสซี ไวเทน สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ