การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐได้ทำข้อตกลงกับพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านได้นั้น นับเป็นความเคลื่อนไหวที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญมองว่า ทรัมป์มีศรัทธาน้อยลงในพรรคการเมืองของตนเอง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ตกลงที่จะให้การสนับสนุนกฎหมายอนุมัติงบประมาณเยียวยาผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคน ซึ่งรวมถึงการขยายเพดานหนี้ออกไปอีก 3 เดือน และได้ลงนามในร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อให้มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ข้อตกลงดังกล่าวทำให้พรรคเดโมแครตมีน้ำหนักเหนือรีพับลิกันในช่วงระยะเวลาที่เหลือของปีนี้ ขณะที่ส.ส.พรรครีพับลิกันจำนวนมากเองก็ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของทรัมป์
ดาร์เรล เวสท์ รองประธานและผู้อำนวยการ Gevernance Studies กล่าวกับซินหัวว่า ทรัมป์ได้เผชิญกับจุดสิ้นสุดของเส้นตายในการอนุมัติงบประมาณรัฐบาล รวมทั้งการขยายเพดานหนี้ และผ่านงบประมาณฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเฮอร์ริเคนไปแล้ว ดังนั้น ทรัมป์จึงได้ตัดสินใจที่จะหลีกเลี่ยงภาวะสูญญากาศด้านกฎหมายกับพรรครีพับลิกัน และใช้คะแนนเสียงจากพรรคเดโมแครตเพื่อที่จะผ่านกฎหมาย
"ผมไม่คิดว่า เรื่องนี้จะเกิดขึ้น เพราะจะทำให้สมาชิกพรรครีพับลิกันถูกโดดเดี่ยวโดยสิ้นเชิง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทรัมป์อาจจะต้องร่วมมือกับพรรคเดโมแครตเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงไป เพราะทรัมป์ไม่คิดว่าการเป็นหัวหน้าพรรครีพับลิกันจะทำให้ได้มาซึ่งเสียงข้างมากเมื่อต้องการผ่านกฎหมายฉบับใดฉบับหนึ่ง" เวสท์ กล่าว
เอาเข้าจริงแล้ว ทรัมป์และรีพับลิกันนั้นมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันมาตั้งแต่ช่วงการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี และทรัมป์ก็ได้แสดงออกซึ่งความเหนื่อยหน่ายที่มีต่อพรรคซึ่งไม่สามารถช่วยให้ทรัมป์สามารถทำตามคำมั่นสัญญาที่ตนเองเคยให้ไว้ในช่วงหาเสียงได้
เวสท์ กล่าวถึงความล้มเหลวในการยกเลิกและแทนที่ร่างกฎหมายประกันสุขภาพเมื่อเดือนที่แล้วว่า ทรัมป์รู้ตัวดีว่าตนเองนั้นมีฐานเสียงที่แข็งแกร่ง แต่ก็ไม่วายต้องเผชิญกับอุปสรรคจากแกนนำพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสที่ทำให้การยกเลิกกฎหมายโอบามาแคร์ต้องคว้าน้ำเหลว
แดน มาฮาฟฟี รองประธานอาวุโสและผู้อำนวยการด้านนโยบายของ Center for the Study of Congress and the Presidency กล่าวกับซินหัวว่า การที่ทรัมป์ได้ทำข้อตกลงนี้ สะท้อนให้เห็นว่าหมดความอดทนต่อแกนนำในทำเนียบขาวและพรรครีพับลิกัน
นายมาฮาฟฟี กล่าวต่อไปว่า พรรครีพับลิกันควรจะกังวลเกี่ยวกับตารางการพิจารณาร่างกฎหมายที่ซับซ้อนที่ทางพรรคต้องเผชิญต่อไป รวมทั้งความโกรธเคืองที่จะเกิดขึ้นในช่วงการเลือกตั้งกลางเทอมปีหน้า หากคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ไม่ปรากฎเป็นรูปธรรม
ข้อตกลงดังกล่าวยังเกิดขึ้นภายหลังจากที่พายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์พัดถล่มเมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัส ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหายนะที่เลวร้ายที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยกลุ่มผู้สังเกตการณ์มองว่า หนึ่งในลำดับความสำคัญของทรัมป์ คือ การจัดหาเงินให้กับผู้ประสบภัยจำนวนมากที่ต้องเผชิญกับหายนะทางธรรมชาติที่เลวร้ายที่สุดเหตุการณ์หนึ่งในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บางกลุ่มยังมีมุมมองที่เป็นบวกที่ว่า อาจจะเกิดความร่วมมือกันระหว่างพรรคได้เมื่อถึงเวลาวิกฤตสำหรับสมาชิกสภานิติบัญญัติ
ไช อาคาบัส ผู้อำนวยการนโยบายเศรษฐกิจของ Bipartisan Policy Center กล่าวว่า การอนุมัติข้อตกลงจากสภาคองเกรสนั้น ถือเป็นสัญญาณบวกที่บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดความร่วมมือกันระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และแกนนำพรรคเดโมแครต
แมทธิว รัสลิง
สำนักข่าวซินหัวรายงาน