ผู้เชี่ยวชาญและผู้นำในภาคอุตสาหกรรมเปิดเผยว่า จีนไม่เพียงแต่ซื้อและผลิตรถยนต์เท่านั้น แต่จะมีบทบาทที่สำคัญอย่างมากต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ในอนาคต เนื่องจากจีน "เปิดกว้างอย่างเต็มที่" รับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
งาน Auto Shanghai 2019 ซึ่งเปิดฉากขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.และจะปิดฉากลงในวันนี้นั้น สามารถดึงดูดผู้จัดงานแสดงกว่า 1,000 รายจาก 20 ประเทศและภูมิภาค ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้ผลิตรถยนต์ให้ความสำคัญกับตลาดรถยนต์ของจีน
นายเฟอร์ดินานด์ ดูเดนฮอฟเฟอร์ ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการของศูนย์วิจัยรถยนต์ (CAR) ที่มหาวิทยาลัยดุยส์เบิร์ก-แอสเซน กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า จีนมีการประหยัดต่อขนาด (Economy of scale) มากที่สุดในตลาดรถยนต์
CAR ระบุว่า งานแสดงดังกล่าวได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่า เป็นงานแสดงสินค้าชั้นนำสำหรับภูมิภาคเอเชียทั้งหมด เนื่องจากมีการสั่งซื้อรถยนต์ในจีนมากกว่า 1 ใน 4 ของรถยนต์ใหม่ทั้งหมดที่ผลิตโดยกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก
ผู้ผลิตรถยนต์ของเยอรมนีส่วนใหญ่ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์พิเศษ อาทิ รถยนต์ที่มีขนาดยาวขึ้น ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้ซื้อชาวจีน โดย BMW ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด 3-series ในงาน Auto Shanghai 2019 ซึ่งจะได้รับข้อเสนอพิเศษในตลาดจีน ขณะที่บริษัทเดมเลอร์ของเยอรมนีก็ได้เปิดตัวรถรุ่น A35 L ด้วย ซึ่งเป็นรถรุ่นใหม่ที่มีขนาดยาวขึ้น และเป็นหนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยมเช่นกัน
นายเฮอร์เบิร์ต ไดส์ ซีอีโอของโฟล์คสวาเกนกล่าวก่อนการจัดงาน Auto Shanghai 2019 ว่า "จีนกำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยียานยนต์มากขึ้นเรื่อยๆ"
นายไดส์กล่าวว่า เทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า การขับเคลื่อนอัตโนมัติ และยานพาหนะในเครือข่าย ล้วนแต่ได้รับแรงผลักดันอย่างมากจากจีน
ในปัจจุบัน โฟล์คสวาเกน ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของเยอรมนีได้เปิดโรงงานใหม่ 4 แห่งในเมืองชิงเต่า ฝอซาน และ เทียนจินในปี 2561 และปัจจุบัน ดำเนินการผลิตที่โรงงานทั้งสิ้น 23 แห่งในจีน
เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เดมเลอร์ประกาศว่า จะทำการจ้างผลิตรถยนต์รุ่น Smart ทั้งหมดในประเทศจีน โดยร่วมมือกับบริษัทจีลี่ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ของจีน เพื่อผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก
ขณะที่รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเป็นหนึ่งของแนวโน้มที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมรถยนต์ จีนจึงเป็นตลาดที่น่าสนใจเป็นพิเศษสำหรับกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์
ข้อมูลจาก CAR บ่งชี้ว่า มีการขายรถยนต์ไฟฟ้า 1.18 ล้านคันในปี 2561 ทั่วประเทศจีน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของรถยนต์ที่จำหน่ายทั่วโลก โดยนายดูเดนฮอฟเฟอร์คาดว่า ยอดขายรถยนต์ในปีนี้จะแตะระดับ 2.2 ล้านคัน
นายดูเดนฮอฟเฟอร์เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า จีนมี "พลวัตที่ยิ่งใหญ่ที่สุด" ในแง่ของนวัตกรรม และ จีนยัง "เปิดกว้างอย่างเต็มที่" ต่อความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี
"จีนเป็นหัวข้อหลักของการขับเคลื่อนแห่งอนาคต" นายดูเดนฮอฟเฟอร์กล่าว และเสริมว่า รถยนต์ที่ใช้แบตเตอรีจะมี"บ้าน"อยู่ในจีน
สเตฟาน ฮาร์ทัง ประธานฝ่าย Mobility Solutions ของบริษัทบ๊อช ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รถยนต์ชั้นนำกล่าวในงาน Auto Shanghai 2019 ว่า บริษัทบ็อชเชื่อว่า ตลาดจีนจะนำเสนอ "ศักยภาพที่ยิ่งใหญ่" ในระยะกลางถึงระยะยาว
คอนติเนนทอล ซึ่งเป็นบริษัทซัพพลายเออร์ด้านรถยนต์รายใหญ่อีกแห่งหนึ่งของเยอรมนี ประกาศในงาน Auto Shanghai 2019 ว่า บริษัทกำลังวางแผนที่จะขยายการผลิตสำหรับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในจีน โดยคอนติเนนทอลจัดแสดงระบบการขับขี่ และองค์ประกอบด้านอิเล็กทรอนิกสำหรับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในงานดังกล่าว และตั้งใจที่จะลงทุนอย่างจริงจังในโรงงานผลิตแห่งใหม่ในเมืองเทียนจินและฉางโจวในประเทศจีน
นอกเหนือไปจากผู้ผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่แล้ว บริษัทสตาร์ทอัพของจีนจำนวนมากได้พากันเปิดตัว โดยเฉพาะในด้านรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งช่วยกระตุ้นการแข่งขันด้านเทคโนโลยี
ยกตัวอย่างเช่น บริษัท เซี่ยวเผิง มอเตอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพด้านรถยนต์ไฟฟ้าของจีน ได้เปิดตัวรถลีมูซีน 4 ประตู รุ่น P7 ที่ใช้แบตเตอรีขนาด 47 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งจะสามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวเป็นระยะทางยาว 600 กิโลเมตร
นายเบิร์นฮาร์ด แมตทิส ประธานของสมาคมอุตสาหกรรมรถยนต์เยอรมนี (VDA) กล่าวว่า "จีนกำลังเปลี่ยนแปลงจากตลาดที่เราเคยจัดหาเทคโนโลยีของยุโรปให้ไปสู่ตลาดที่จะขับเคลื่อนเทคโนโลยี"
นายแมตทิสกล่าวเสริมว่า "เราจะเข้าร่วมในตลาดจีน และนั่นคือเหตุผลที่เราขยายงานด้านการวิจัยและพัฒนาในตลาดจีน"
CAR เปิดเผยว่า แบตเตอรีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกราว 35% จะมาจากบริษัท CATL ซึ่งเป็นบริษัทผลิตแบตเตอรียักษ์ใหญ่ของจีน และบริษัท BYD ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีน
นายดูเดนฮอฟเฟอร์กล่าวว่า นั่นคือเหตุผลที่ว่า เราจะไม่สามารถนึกถึง "รถยนต์ของวันพรุ่งนี้" ได้เลย หากปราศจากจีน