นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กดดันอย่างหนักให้นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ โดยจะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน กรกฎาคม ตุลาคม และธันวาคม
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 95.1% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 6-7 พ.ค.
นอกจากนี้ FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนมิ.ย., ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเดือนก.ค., ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมเดือนต.ค. และปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.25-3.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์เรียกร้องเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ให้นายพาวเวลรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามธนาคารกลางยุโรป มิฉะนั้นเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง และปธน.ทรัมป์ยังกล่าวหานายพาวเวลว่ามักปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างล่าช้า ยกเว้นในช่วงการเลือกตั้ง ซึ่งเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือให้อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนางคามาลา แฮร์ริส ชนะการเลือกตั้ง
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมปยังขู่ที่จะปลดนายพาวเวลออกจากตำแหน่ง ก่อนที่เขาครบวาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดในเดือนพ.ค.2569 แต่ปธน.ทรัมป์ได้เปลี่ยนแปลงท่าทีในภายหลังว่า เขาไม่มีความประสงค์ที่จะปลดนายพาวเวลแต่อย่างใด