สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานผลการสำรวจพบว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้ เพื่อพยุงเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ
นอกจากนี้ การที่เงินเฟ้อของไทยยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมที่ระดับ 0.8% ในเดือนมี.ค. และเศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวต่ำกว่าคาดในปี 2567 ได้ทำให้ธปท.มีช่องทางในการผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไปเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และทำให้บาทอ่อนค่าลงเพื่อสนับสนุนการส่งออก
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ 20 จาก 28 ราย หรือกว่า 70% ในการสำรวจเมื่อวันที่ 21-28 เม.ย. คาดว่า กนง.จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.75% ในการประชุมวันที่ 30 เม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี ขณะที่ 8 รายคาดว่ากนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมดังกล่าว
ผลการสำรวจดังกล่าวถือเป็นการสวนทางการสำรวจที่ได้ทำไว้หลังจากที่กนง.สร้างความประหลาดใจต่อตลาดด้วยการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนก.พ. ซึ่งในการสำรวจดังกล่าว นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ากนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนเม.ย.
นอกจากนี้ ผลการสำรวจล่าสุดระบุว่า นักวิเคราะห์ 14 จาก 25 รายคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับลดลง 0.50% สู่ระดับ 1.50% ก่อนสิ้นสุดไตรมาส 3/2568 ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าการสำรวจก่อนหน้านี้ถึง 0.50%
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2568 สู่ระดับ 2.1% จากเดิมคาดการณ์ในเดือนม.ค.ที่ระดับ 2.9% โดยตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าตัวเลขประมาณการของธปท.ในเดือนก.พ.ที่ระดัม 2.5% ขณะที่ไทยยังคงไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีศุลกากร 36% ต่อสินค้านำเข้าจากไทย