ในแถลงการณ์ครั้งนี้ เบอร์นันเก้ยังคงย้ำมุมมองของเขาที่เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาว่า "เราจะพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจเป็นหลัก หากข้อมูลเศรษฐกิจออกมาแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ เราก็จะดำเนินการลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรให้เร็วขึ้น แต่หากข้อมูลที่ออกมาไม่สอดคล้องกับการคาดการณ์ เราก็อาจจะชะลอการดำเนินการดังกล่าว หรืออาจจะเพิ่มขนาดโครงการซื้อพันธบัตรในเวลานั้น" "หากข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยในวันข้างหน้า บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและอัตราว่างงานอยู่ในระดับที่ปกติ เราก็คาดการณ์ไว้ว่าจะเริ่มดำเนินการปรับลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรไปจนถึงช่วงครึ่งแรกของปีหน้า ซึ่งหมายความว่าโครงการนี้จะยุติในช่วงประมาณกลางปี" เบอร์นันเก้กล่าว