สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายทาเคฮิเดะ คิอูจิ บอร์ดของบีโอเจกล่าวสุนทรพจน์ที่ฮอกไกโดว่า โดยพื้นฐานแล้ว ผมเชื่อว่าวงจรเศรษฐกิจที่เป็นบวกจะยังคงมีอยู่ แม้ว่ารัฐบาลมีแผนที่จะขึ้นภาษีการขายในเดือนเม.ย.ปีหน้าก็ตาม แต่โดยส่วนตัวแล้ ผมคิดว่าผลกระทบของความเสี่ยงช่วงขาลงค่อนข้างจะมากกว่า เนื่องจากความไม่แน่นอนที่มีมากขึ้นของเศรษฐกิจในต่างประเทศ
ในขณะที่เศรษฐกิจต่างประเทศโดยรวมคาดว่า จะฟื้นตัวขึ้นนั้น แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ เพราะไม่แน่นอนว่า เศรษฐกิจสหรัฐและประเทศที่พัฒนาแล้วจะสามารถรับมือกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจเกิดใหม่ และสนับสนุนเศรษฐกิจโลกได้อย่างเต็มที่หรือไม่
ด้วยเหตุนี้ นายคิอูชิจึงให้ความสำคัญกับความเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ยระยะยาวของสหรัฐ ราคาน้ำมันดิบ และอัตราการผลิตของแรงงาน ซึ่งอยู่ในระดับต่ำ
สำหรับประเด็นภายในประเทศนั้น บอร์ดบีโอเจกำลังติดตามในเรื่องของปริมาณการเพิ่มการใช่จ่ายของบริษัทเอกชน ซึ่งล้าหลังกว่าการลงทุนภาคสาธารณะ การลงทุนด้านการบริโภคและที่อยู่อาศัย รวมทั้งค่าจ้างที่สูงขึ้น และวิธีการที่ภาคเอกชนจะช่วยกระตุ้นการบริโภคในช่วงที่เงินเยนอ่อนค่าลง และช่วงขาขึ้นของหุ้นชะลอตัวลง
ส่วนเป้าหมายในการบรรลุเป้าหมายที่ 2% ภายในระยะเวลา 2 วันของธนาคารกลางญี่ปุ่นนั้น นายคิอูจิได้เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงกรอบเวลาจากระยะกลางเป็นระยะยาว โดยชี้ว่าการที่จะบรรลุเป้าหมายให้ได้นั้นถือว่ายังไม่มีความแน่นอนอยู่อีกมาก และชี้ว่า บีโอเจควรจะทบทวนนโยบายเงินตราอย่างยืดหยุ่นหลังจากที่ได้มีการผ่อนปรนนโยบายเป็นเวลาประมาณ 2 ปั ภายหลังจากที่ได้มีการนำมาใช้เมื่อเดือนเม.ย. เมื่อพิจารณาจากความเสี่ยงของผลกระทบข้างเคียงที่จะมีมากกว่าผลบวก หากมีการใช้นโยบายผ่อนปรนต่อไปหรือผ่อนคลายมากกว่านี้