"เราจะฝ่าฟันความวุ่นวายได้ เพราะเรามีนโยบายที่สามารถนำออกมาใช้เมื่อไหร่ก็ได้" นายกุยนิกุนโดกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยมาตรการดังกล่าวรวมถึงการกระตุ้นสภาพคล่องของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและเปโซ การเฝ้าสังเกตความเสี่ยงด้วยความรอบคอบ การใช้สัญญาณชี้นำล่วงหน้า การใช้ประโยชน์จากข้อตกลงทำสว็อปค่าเงิน และการคุมเข้มนโยบายการเงิน
ด้านศรี มุลยานิ อินทราวาติ กรรมการผู้จัดการของธนาคารโลกกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการลด QE ของสหรัฐ เนื่องจากต้นทุนกู้ยืมที่สูงขึ้นจะตามมา
ทั้งนี้ ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ได้ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.5% เป็นครั้งที่ 7 ติดต่อกันในการประชุมเดือนนี้ ภายหลังอัตราเงินเฟ้อลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี
นายซิด อะมาดอร์ ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า สภาพคล่องและสินเชื่อในฟิลิปปินส์ขยายตัวเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ และเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายไม่พบภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์
นายอะมาดอร์ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ของฟิลิปปินส์ปรับตัวขึ้น 7.5% จากปีก่อน ซึ่งเท่ากับอัตราขยายตัวของจีดีพีจีน ขณะที่ความต้องการอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้นในฟิลิปปินส์นั้น เป็นเพราะความต้องการใช้สอย ไม่ใช่เพื่อการเก็งกำไรหรือการลงทุน โดยเขากล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ปรึกษาหารือกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์และธนาคารพาณิชย์เป็นประจำ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์