“เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่มองว่าจะเป็นการเหมาะสมสำหรับคณะกรรมการในการรอให้มีความชัดเจนมากขึ้นว่าความคืบหน้าจะมีความยั่งยืนก่อนที่ปรับขนาดการซื้อสินทรัพย์" รายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ระบุ
นับตั้งแต่วิกฤตการเงินได้เริ่มขึ้น เฟดได้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ และได้ดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณเสร็จสิ้นไปแล้ว 2 รอบ หรือที่เรียกว่า QE1 และ QE2 ตามลำดับ โดยในขณะนี้ เฟดกำลังดำเนินการซื้อพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวและหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) เป็นจำนวน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน หรือที่รู้จักกันในชื่อ QE3
ในการสรุปการประชุมนโยบายครั้งล่าสุด เฟดได้ตัดสินใจที่จะยังคงซื้อ MBS ต่อไปเป็นจำนวน 4.0 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะยาววงเงิน 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน เพื่อหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เฟดบางรายมีความวิตกว่าการไม่ดำเนินการใดๆอาจจะทำให้ความมีประสิทธิภาพของเฟดในการสื่อสารกับตลาดนั้นอ่อนแอลง ขณะที่การแสดงความเห็นเมื่อเดือนพ.ค.ของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ที่ว่าเฟดอาจจะเริ่มชะลอมาตรการ QE3 ภายในปีนี้ โดยมีแรงหนุนจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นนั้น ได้สั่นคลอนตลาดการเงินทั่วโลกในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัวรายงาน