ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า นโยบายการเงินยังคงมีส่วนช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จำเป็นต้องมีการสร้างงานอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่นโยบายด้านการคลังของสหรัฐยังเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจ
จอห์น วิลเลียม กล่าวต่อไปว่า ในขณะที่เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จุดยืนด้านนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษนี้ จำเป็นต้องได้รับการปรับไปอย่างต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ขั้นตอนแรกคือ การชะลอจังหวะในการชะลอการซื้อพันธบัตรลงเป็นระยะๆ และค่อยๆยกเลิกการซื้อพันธบัตรลงในที่สุด
ประธานเฟดสาขาซาฟรานซิสโก กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังการกล่าวสุนทรพจน์ว่า หากสหรัฐไม่สามารถปรับเพิ่มเพดานหนี้และผิดนัดชำระหนี้ได้ จะส่งผลกระทบที่ไม่สามารถคาดเดาได้ต่อตลาดทั่วโลก ปัญหาด้านนโยบายการคลังของสหรัฐอาจจะสั่นคลอนศรัทธาที่มีต่อสหรัฐและสร้างความเสียหายต่อระบบการเงินโลก
นายวิลเลียม กล่าวต่อไปว่า อัตราภาษีเงินได้ที่สูงขึ้นกำลังบั่นทอนรายได้ที่ทำให้การใช้จ่ายของผู้บริโภค และทำให้ผู้บริโภคต้องลดการใช้จ่ายลง ซึ่งจะทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจลดลงไปประมาณ 1.5% ในขณะที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับปัญหาในสภาคองเกรสก็ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ผู้บริหารของบริษัทต่างๆกำลังกังวลเกี่ยวกับนโยบายด้านภาษีและการกำกับดูแล ขณะที่ภาคครัวเรือนก็กังวลเกี่ยวกับเรื่องงานและรายได้ในอนาคต ทุกคนไม่มั่นใจในเรื่องความสามารถในการแก้ปัญหาของรัฐบาล
สำหรับแนวโน้มเรื่องเงินเฟ้อนั้น นายวิลเลียม กล่าวว่า เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำและมีเสถียรภาพ และค่อยๆปรับตัวขึ้นมาอยู่ใกล้กับเป้าหมายที่ 2% ของเฟด