"สมาชิกบางรายของบีโอเจกล่าวว่า ผลกระทบของการปรับขึ้นภาษีการอุปโภคบริโภค ซึ่งรวมถึงผลกระทบที่มีต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและผู้บริโภคนั้น ควรมีการประเมินโดยไม่มีการตั้งธงไว้ล่วงหน้า โดยต้องพิจารณาว่าเศรษฐกิจได้เผชิญกับภาวะเงินฝืดมาเป็นเวลานาน" รายงานการประชุมระบุ
ทั้งนี้ กรรมการกำหนดนโยบายของบีโอเจมีความคิดเห็นที่สอดคล้องกันว่า อุปสงค์ด้านสินค้าคงทน เช่น รถยนต์ ได้ปรับตัวสูงขึ้นก่อนที่จะมีการปรับขึ้นภาษีอีก 3% และยังมีความเห็นพ้องกันว่า การอุปโภคบริโภคในภาคเอกชนจะยังคงฟื้นตัว เพราะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของการจ้างงานและรายได้
สมาชิกบางรายของบีโอเจกล่าวว่า มีความจำเป็นที่บีโอเจจะต้องให้คำอธิบายที่ชัดเจนมากขึ้นต่อสาธารณะชน เกี่ยวกับแนวทางการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% เนื่องจากมีข้อกังขาเกิดขึ้นในตลาด
ส่วนในด้านเศรษฐกิจต่างประเทศนั้น สมาชิกบางรายระบุว่า ตลาดมีปฏิกริยาในเชิงบวกโดยทั่วไปต่อการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจเริ่มปรับลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ แต่กล่าวเพิ่มเติมว่า บีโอเจจะยังคงให้ความสนใจในเรื่องผลกระทบของการตัดสินใจดังกล่าวที่มีต่อกลุ่มตลาดเกิดใหม่ที่กำลังเผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด สำนักข่าวเกียวโดรายงาน