นายวีลเลอร์กล่าวต่อหอการค้านายจ้างแคนเทอร์เบอรีในเมืองไครส์เชิร์ชว่า เศรษฐกิจนิวซีแลนด์มีอัตราการขยายตัวที่สูงกว่าประเทศอื่นๆที่อยู่ในระดับเดียวกันในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และความสำเร็จในการรักษาเสถียรภาพด้านราคาจะช่วยสร้างความมั่นใจว่าการขยายตัวจะมีความยั่งยืน
“ปัจจัยชี้วัดทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก โดยดัชนีชี้วัดด้านการค้าแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2536 และความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี" เขากล่าว
ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ระบุว่า เงินเฟ้อนับเป็นความเสี่ยงที่สำคัญประการหนึ่งต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อกำลังก่อตัวขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคก่อสร้าง และศักยภาพส่วนเกินกำลังถูกดูดซับอย่างรวดเร็ว
“แรงกดดันจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มแรงกดดันต่ออัตราแลกเปลี่ยนที่มีประสิทธิภาพที่แท้จริงของนิวซีแลนด์ และบั่นทอนศักยภาพในการแข่งขันด้านการส่งออกและนำเข้าของอุตสาหกรรมทดแทน" นายวีลเลอร์กล่าว
ทั้งนี้ ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ตั้งเป้าที่จะรักษาอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในอนาคตให้ใกล้เคียงระดับ 2% ซึ่งเป็นค่ากลางของช่วงเป้าหมาย 1-3% เพื่อสร้างความมั่นใจว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะสอดคล้องกับศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจ สำนักข่าวซินหัวรายงาน