ในแถลงการณ์รอบครึ่งปีเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการเงินนั้น นางเยลเลนกล่าวว่า เฟดจะติดตามข้อมูลเศรษฐกิจเพื่อประเมินว่า ภาวะซบเซาอันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่เลวร้ายนั้น จะเป็นไปเพียงชั่วคราวหรือไม่
"นับตั้งแต่ที่ดิฉันได้แถลงต่อคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร ข้อมูลหลายด้านบ่งชี้ว่า ตัวเลขการใช้จ่ายชะลอตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์จำนวนมากคาดการณ์ไว้ โดยภาวะอ่อนแอดังกล่าวส่วนหนึ่งอาจสะท้อนถุงสภาพอากาศที่เลวร้าย แต่ขณะนี้ยังเป็นเรื่องยากที่จะระบุว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นมีมากเพียงใด" นางเยลเลนแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภา
นอกจากนี้ นางเยลเลนกล่าวว่า "ในช่วงหลายสัปดาห์และหลายเดือนข้างหน้านี้ ดิฉันและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆของเฟด จะให้ความสนใจกับสัญญาณต่างๆที่จะบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจกำลังมีความคืบหน้าสอดคล้องตามที่เราได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่"
ทั้งนี้ ถ้อยแถลงดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงมุมมองอย่างมีนัยสำคัญว่า เฟดอาจจะยุติแผนการปรับลดโครงการซื้อสินทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันมีวงเงิน 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน
ทั้งนี้ นางเยลเลน วัย 67 ปี ได้ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานเฟดเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา ต่อจากนายเบน เบอร์นันเก้ ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง โดยก่อนหน้านี้นางเยลเลนเคยดำรงตำแหน่งรองประธานเฟด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นางเยลเลนมีกำหนดจะแถลงมุมมองเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาในวันที่ 13 ก.พ. แต่กำหนดการได้ถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากเกิดพายุหิมะในสหรัฐ