นักวิเคราะห์คาดว่า คณะกรรมการทั้ง 9 คนของบีโอเจจะยังคงระดับการเมินเศรษฐกิจเอาไว้เท่าเดิม โดยจะกล่าวว่า เศรษฐกิจฟื้นตัวปานกลาง พร้อมกับจับตาดูผลกระทบของการตัดสินใจปรับขึ้นภาษีการขายเป็น 8% จากระดับ 5% และบีโอเจจะคาดการณ์ว่ายอดขายสินค้าสำหรับครัวเรือนจะลดลงในเดือนเม.ย. ขณะที่ยอดขายสินค้าคงทน รวมถึงรถยนต์ จะปรับตัวลดลงไปจนถึงเดือนมิ.ย.ปีนี้
ส่วนในการประชุมหลังสุดเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา บีโอเจ มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนปรนพิเศษ รวมถึงการเพิ่มฐานเงินรายปีที่อัตรา 60-70 ล้านล้านเยน พร้อมกับคงการประเมินเศรษฐกิจภายในประเทศไว้ไม่เปลี่ยนแปลง โดยระบุว่าเศรษฐกิจ "ยังคงฟื้นตัวปานกลาง" นอกจากนี้ บีโอเจระบุว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเดินหน้าสู่การบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% แม้จะมีปัจจัยที่ไม่แน่นอนบางประการ ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดผลกระทบรุนแรงจากการปรับขึ้นภาษีการอุปโภคบริโภคในเดือนเม.ย. อีกทั้งสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่