"การเลื่อนเวลาถอนมาตรการ QE อย่างไม่เหมาะสม อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงินมากขึ้น และการยุติมาตรการดังกล่าวในเวลาที่รวดเร็วเกินไปก็จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ อีกทั้งจะทำให้ภาระหนี้สินที่ยังคงอยู่ในระดับสูงในภาคส่วนต่างๆของเศรษฐกิจอยู่ในภาวะที่ย่ำแย่หนักขึ้น ดังนั้น ช่วงเวลาและการบริหารจัดการเกี่ยวกับการถอนมาตรการ QE จึงมีความสำคัญอย่างมาก" ไอเอ็มเอฟระบุในรายงาน "Global Financial Stability Report"
ไอเอ็มเอฟระบุว่า แม้มีความเป็นไปได้อย่างมากว่าการถอนมาตรการ QE ในสหรัฐจะเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ก็เป็นไปได้ว่าการถอนมาตรการดังกล่าวอาจจะไม่ต่อเนื่อง
"ภาวการณ์นี้อาจจะเป็นผลมาจากความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงิน หรือเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเกินคาด" นายโฮเซ ไวนอลส์ ผู้อำนวยการฝ่ายตลาดการเงินและตลาดทุนของไอเอ็มเอฟกล่าว
ทั้งนี้ นายไวนอลส์กล่าวว่า กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่จะเป็นต้องเตรียมความพร้อมอย่างต่อเนื่องสำหรับการคุมเข้มด้านการเงินทั่วโลก ด้วยการเพิ่มความยืดหยุ่นผ่านทางการใช้นโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่ระมัดระวัง รวมทั้งสร้างเครื่องมือรองรับด้านนโยบาย และบริหารจัดการหนี้สินของภาคเอกชน สำนักข่าวซินหัวรายงาน