“เรายังไม่ได้ตัดสินใจ และอาจจะรอจนกว่าเราจะเข้าสู่กระบวนการของการปรับนโยบายการเงินเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อประเมินขนาดของงบดุลบัญชีระยะยาวของเรา ซึ่งจะลดลงอย่างมากจากระดับปัจจุบัน และนั่นจะใช้เวลาหลายปี" นางเยลเลนกล่าว
หลังการเข้าซื้อสินทรัพย์หลายรอบหรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ งบดุลบัญชีของเฟดได้พุ่งขึ้นมาอยู่ที่กว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ จากระดับราว 8 แสนล้านดอลลาร์ก่อนช่วงวิกฤตการเงิน
ประธานเฟดระบุว่า งบดุลบัญชีของเฟดจะยังคงอยู่ที่ระดับล้านล้านดอลลาร์เป็นเวลาหลายปี โดยจะใช้เวลา 5-8 ปีในการทำให้พอร์ทโฟลิโอเงินกู้และหลักทรัพย์กลับมาสู่ระดับก่อนช่วงเกิดวิกฤต หากการถือครองหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ค่อยๆครบกำหนดส่งมอบและปรับตัวลง
ในขณะนี้ เฟดยังคงดำเนินการนำเงินต้นที่ได้รับจากการถือครองตราสารหนี้ของหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุนและ MBS ของหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุน ไปลงทุนใหม่ใน MBS ของหน่วยงานที่รัฐบาลให้การสนับสนุน และเข้าซื้อพันธบัตรชุดใหม่เมื่อพันธบัตรเดิมครบกำหนดไถ่ถอนในการประมูล เพื่อรักษาระดับการถือครองหลักทรัพย์ไว้
ก่อนหน้านี้ เฟดเคยระบุว่าจะขายหลักทรัพย์ที่มีการถือครองไว้ดังกล่าว เมื่อเศรษฐกิจของประเทศกลับสู่ภาวะปกติ แต่เจ้าหน้าที่เฟดไม่ได้สนับสนุนแผนการขายแต่อย่างใด