นายคูโรดะเปิดเผยในที่ประชุมว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารสดที่มีความผันผวนและไม่นับรวมผลกระทบโดยตรงจากการขึ้นภาษีเมื่อ 1 เม.ย.นั้น จะยังคงอยู่ที่ 1 - 1.5% "ในชั่วขณะนี้" เมื่อเทียบกับเป้าหมายเงินเฟ้อของบีโอเจซึ่งตั้งไว้ 2%
"เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวปานกลางอย่างต่อเนื่องตามทิศทาง ถึงแม้จะพบว่าความต้องการลดลงหลังความต้องการล้นทะลักก่อนขึ้นภาษี" นายคูโรดะกล่าว
เขากล่าวว่า คาดว่าญี่ปุ่น ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกนั้น "จะฟื้นตัวปานกลางตามทิศทางต่อไป" ในขณะที่กำลังได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษี ทั้งนี้การขึ้นภาษีการขายจาก 5% เป็น 8% จุดกระแสความกังวลว่าจะเป็นสาเหตุให้การใช้จ่ายภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจลดลง
ผู้ว่าการบีโอเจระบุว่า นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษของบีโอเจ "ได้ส่งผลตามที่ตั้งใจ" เขากล่าวเสริมว่า บีโอเจจะตรวจสอบความเสี่ยงทั้งช่วงขาขึ้นและขาลงต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและราคา และจะปรับเปลี่ยนนโยบายตามความเหมาะสม"
บีโอเจกำลังดำเนินมาตรการเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นเป็นเงินมหาศาล ตลอดจนสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆของธนาคารต่างๆ และเพิ่มสภาพคล่องสู่ระบบเศรษฐกิจของญี่ปุ่น
ทั้งนี้ บีโอเจจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินครั้งต่อไปในวันที่ 14-15 ก.ค. โดยจะมีการประเมินผลสำรวจความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตขนาดใหญ่ (ทังกัน) และรายงานภาวะเศรษฐกิจของเขตต่างๆในญี่ปุ่น มีกระแสคาดการณ์ส่วนใหญ่จนถึงขณะนี้ว่า บีโอเจจะยังคงใช้นโยบายการเงินเดิมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อต่อไป สำนักข่าวเกียวโดรายงาน