รายงานดังกล่าว ซึ่งประเมินภาวะเศรษฐกิจของ 12 ภูมิภาค ระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจใน 12 เขตในเดือนก.ค.และส.ค. แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจใน 6 เขตมีการขยายตัว “ปานกลาง" และในอีก 4 เขตรายงานถึงการขยายตัว “เล็กน้อย"
รายงานระบุว่า 5 เขตยังคงมี “มุมมองบวก" เกี่ยวกับการขยายตัวในอนาคต ขณะที่เขตอื่นๆส่วนใหญ่ระบุถึงมุมมองบวกในบางภาคธุรกิจ ขณะที่รายงาน Beige Book ครั้งก่อนที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 ก.ค.นั้น พื้นที่ส่วนใหญ่มี “มุมมองบวก" เกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัว
การใช้จ่ายของผู้บริโภคขยายตัวในพื้นที่ส่วนใหญ่ที่อัตราตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงปานกลาง โดยอัตราการขยายตัวแทบไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับรายงานครั้งก่อน ขณะที่ภาคการผลิตปรับตัวแตกต่างกัน โดยมีเพียงนิวยอร์ก ฟิลาเดลเฟีย ริชมอนด์และแอตแลนตา ที่รายงานถึงมุมมองบวกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มภาคการผลิต
นับตั้งแต่รายงาน Beige Book ครั้งก่อน กิจกรรมในภาคอสังหาริมทรัพย์ด้านที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดขายบ้านมือสองและการก่อสร้างบ้านใหม่ โดยทั่วไปได้มีการขยายตัวหรือทรงตัวในภูมิภาคครึ่งหนึ่งในจำนวน 12 เขต
Beige Book ระบุว่า แนวโน้มตลาดแรงงานในด้านการจ้างงาน ค่าจ้างและราคา ค่อนข้างทรงตัวใน 12 เขต โดยเกือบทุกเขตเผชิญกับภาวะขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ และแรงกดดันด้านราคายังคงอยู่ในระดับต่ำ
เมื่อวันที่ 22 ส.ค.นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้ยืนยันถึงท่าทีของเฟดที่จะยังคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเป็น “ระยะเวลานาน" ซึ่งจะพิจารณาถึงความไม่แน่นอนในตลาดแรงงานและการคาดการณ์เงินเฟ้อ
“มีแนวโน้มที่จะมีความเหมาะสมในการคงช่วงเป้าหมายในปัจจุบันสำหรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้เป็นระยะเวลานานหลังจากโครงการซื้อสินทรัพย์ในปัจจุบันของเราสิ้นสุดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการคาดการณ์เงินเฟ้อยังคงต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาวที่ 2% ของคณะกรรมการเฟด และหากการคาดการณ์เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้" นางเยลเลนกล่าวในการประชุมสุดยอดประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิง
ทั้งนี้ รายงาน Beige Book อิงกับข้อมูลเศรษฐกิจจากธนาคารภูมิภาค 12 แห่งของเฟด โดยจะมีการเปิดเผยปีละ 8 ครั้งเพื่อแสดงถึงภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐ และจะมีการอัพเดทข้อมูลราว 2 สัปดาห์ก่อนการประชุมกำหนดนโยบายของเฟดในแต่ละครั้ง
คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดมีกำหนดจะประชุมกันครั้งต่อไปในวันที่ 16-17 ก.ย. โดยตลาดกำลังคาดการณ์ถึงการตัดสินใจนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 17 ก.ย. และกำลังประเมินสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับช่วงเวลของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก