โดยการอัดฉีดเงินครั้งนี้ จะอยู่ในรูปแบบของการปล่อยเงินกู้ระยะเวลา 3 เดือน ประเภทดอกเบี้ยต่ำให้กับธนาคารเหล่านี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีลักษณะที่ใกล้เคียงกับการปรับลดสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ที่ธนาคารกลางจีนลง 0.5%
ความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางจีนครั้งนี้ถือเป็นการใช้มาตรการแบบเจาะกลุ่ม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางจีนได้อภิปรายกันเกี่ยวกับการผ่อนปรนนโยบายเป็นวงการ อาทิ การปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่เจ้าหน้าที่บางคนเกรงว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจจะทำให้กระแสเงินกู้ในระบบมีปริมาณสูงเกินไปและอาจจะยิ่งทำให้ปัญหาหนี้สินของจีนทวีความรุนแรงขึ้นมาได้ โดยท้ายที่สุด ปัญหาเหล่านี้ก็จะทำให้เศรษฐกิจเผชิญกับความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนจะอัดฉีดเงิน 1 แสนล้านหยวน ให้กับธนาคารอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า, ไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงก์, อะกริคัลเจอรัล แบงก์ ออฟ ไชน่า, แบงก์ ออฟ ไชน่า และแบงก์ ออฟ คอมมิวนิเคชั่นส์ ผ่านทางการปล่อยเงินกู้มาตรฐานของธนาคารกลางจีน
ธนาคารกลางจีนคาดว่า จะดูแลให้ธนาคารรายใหญ่เหล่านี้ปล่อยสินเชื่อให้กับภาคส่วนที่รัฐบาลจีนมองว่ามีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ อาทิ ภาคที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชน ธุรกิจภาคเอกชนและธุรกิจขนาดเล็ก
การอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบของธนาคารกลางจีนครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจจีนหลายรายการที่ได้มีการเปิดเผยไปเมื่อเร็วๆนี้ ล้วนบ่งชี้ถึงภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
เมื่อวานนี้ กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า ตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของจีนในเดือนส.ค.ร่วงลง 14% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 7.2 พันล้านดอลลาร์ โดยเป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องหลังจากที่หดตัวลง 17% ในเดือนก.ค.
ส่วนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัว 6.9% เมื่อเทียบปีต่อปีในเดือนส.ค. ลดลงจากระดับ 9% ในเดือนก.ค.
ในการเปรียบเทียบเป็นรายเดือน ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.หดตัวลง 0.2% จากเดือนก.ค. ส่วนในช่วง 8 เดือนแรกของปี ยอดรวมผลผลิตภาคอุตสาหกรรมมูลค่าเพิ่มขยายตัว 8.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน